รัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน

รัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ในช่วงเปิดตลาดดัชนี เปิดโดดราว +12 จุด แล้วมีการย่อตัวลงมาในระหว่างวัน จากแรงซื้อในหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ หุ้นโรงพยาบาล

ที่ได้อานิสงค์จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่อยู่ในระดับสูง และกลุ่มถ่านหิน ที่ราคาหุ้นตอบสนองเชิงบวก ต่อราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นแรง จากสถานการณ์ที่ตึงเครียดในยูเครน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,696.08 จุด +6.27 จุด +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 113,829 ลบ. ต่างชาติ +2,853.39 ลบ. TFEX -3,536 สัญญา ตราสารหนี้ +407.29 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย
+ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศเลื่อนการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป "มินิทแมน ทรี" (Minuteman III) ที่มีกำหนดทดสอบในสัปดาห์นี้ เพื่อไม่ให้มีการตีความไปในทางที่ผิดในสถานการณ์ตึงเครียดหลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน
+ ก.คมนาคม เร่งจัดตั้ง 3 บริษัทสายการเดินเรือแห่งชาติ เล็งใช้แนวทางร่วมทุนเอกชน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 23,834 ราย ATK 31,571 ราย มีผู้เสียชีวิต 54 ราย รักษาหาย 19,351 ราย

 

ปัจจัยลบ

- ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 400 จุดและตลาดหุ้นในภูมิภาคร่วงแรงหลังรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ในยูเครนซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป และเป็นแหล่งผลิตพลังงานในสัดส่วน 25% ของยูเครนสร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับหายนะที่เกิดจากนิวเคลียร์
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 96.69 จุด -0.29% กังวลสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่รัสเซียถูกนานาประเทศคว่ำบาตร
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.93 ดอลลาร์ +2.6% ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก

- ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 56.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 61.0 หลังจากแตะระดับ 59.9 ในเดือนม.ค.
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลง 6 ขั้น จากระดับ BBB สู่ระดับ B ซึ่งเป็นระดับ "ขยะ"
- MSCI ประกาศปรับสถานะดัชนีตลาดหุ้นรัสเซีย โดยถอดตลาดหุ้นรัสเซียออกจากการคำนวณในดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ (MSCI Emerging Markets Indexes) และปรับให้อยู่กลุ่ม "Standalone Markets"
- กระทรวงการคลังยังไม่พิจารณาโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ทั้งการเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลา เนื่องจากโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ยังคงดำเนินการอยู่จนถึงวันที่ 30 เม.ย.2565

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันจากเหตุเพลิงไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน หลังจากกองกำลังทหารของรัสเซียได้เข้าโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,685-1,700 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                   TACC “มองบวกอ่อนๆ” ราคาเหมาะสม 8.20 บาท

รัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน

 

•TACC รายงานกำไรปี 64 เท่ากับ 214 ลบ. (ใกล้เคียงกับเราคาดที่ 215 ลบ.) +14%YoY โดยมีรายได้เท่ากับ 1,353 ลบ. +2%YoY เติบโตเล็กน้อยเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ดี %GPM ดีขึ้นเป็น 38% จากปีก่อนที่ 34% เนื่องจาก 1) ปรับ Product Mix 2) รับรู้รายได้จากการเพิ่มขนาดแก้ว 22 oz เต็มปี และ 3) ควบคุมประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุน

•(+) ผบห.ตั้งเป้ารายได้ 10-15% (Conservative) จากทุกกลุ่มธุรกิจที่ฟื้นดีขึ้น 1) กลุ่มเครื่องดื่มเติบโตการขยายสาขา 7-Eleven, Lotus’s go fresh ประกอบกับปัจจุบัน Traffic กลุ่มร้านค้าปลีกทยอยดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วน Food Court ใน Lotus’s Hypermarket ยังโตได้อีก เนื่องจากปัจจุบันเข้าไปให้บริการเพียง 75 สาขา จากทั้งหมด 240 สาขา 2) ธุรกิจ Licenses ลูกค้าเริ่มกลับมาแล้ว โดยในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้มีการจัด Events ใหญ่ 3 แห่ง และ 3) ผลิตภัณฑ์กัญชง-กัญชา ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการวิจัยและพัฒนาสินค้า คาดวางขายช่วงกลาง-ปลายปีนี้

•(-) ต้นทุนผลิต (น้ำตาล ครีมเทียม และค่าขนส่ง) ที่เร่งขึ้นตามเงินเฟ้ออาจเป็นปัจจัยกดดัน %GPM ในปีนี้ อย่างไรก็ดี ช่วง 1Q65 จะยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการทำ forward ไว้แล้ว แต่หากต้นทุนยังคงเร่งขึ้นต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยกดดันต่อผลประกอบการในช่วง 2H65

•(0) เรามีมุมมองบวกอ่อนๆจากการประชุมนักวิเคราะห์ แม้แนวโน้มรายได้ยังคงเติบโต แต่อาจถูกดดันจากต้นทุนที่เร่งขึ้น นอกจากนี้ กระแส Vending Machine อาจทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแข่งขันรุนแรงขึ้น

 

หุ้นมีข่าว

(+) CPALL (Bloomberg Consensus 75.00 บาท) ส่งซิก Q1/2565 ยอดขายฟื้น รับมาตรการรัฐคลายล็อกเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และกำลังซื้อผ่านโครงการช้อปดีมีคืน ชูกลยุทธ์ O2O ลูกค้าตอบรับเพียบ หวังธุรกิจโตทุกไตรมาสหนุนผลงานทั้งปี 2565 เหนือกว่าปี 2564 ลุยสาขาใหม่ 700 สาขาปีนี้ จัดงบลงทุน 11,000-12,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LEO (Bloomberg Consensus 20.75 บาท) ส่งสัญญาณรายได้โลจิสติกส์ 2 เดือนแรกทำนิวไฮ ชี้ค่าระวางเรือยังอยู่ในระดับสูง ความต้องการเพียบ ฟากบอสใหญ่ "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" เร่งปั๊มผลงานโตก้าวกระโดดตามแผน ปักธงรายได้ปี 2565 โต 30-35% เตรียมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์บริษัท "เวิร์ลแอร์" เข้าในไตรมาส 2/2565 เร่งเครื่องปิดดีล M&A อินโด เวียดนาม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BRI (Bloomberg Consensus 13.80 บาท) ตั้งเป้ายอดโอนปี 2565 โต 90% ที่ 7,250 ล้านบาท มียอดขาย 1.1 หมื่นล้านบาท ลุยเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.34 หมื่นล้านบาท พร้อมรักษามาร์จิ้นในระดับ 31-32% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 16% ขณะที่ 2 เดือนแรกทายอดขายแล้ว 1.5 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BROOK (Bloomberg Consensus - บาท) กางแผนงานปี 2565 ก้าวสู่ "Digital Asset Specialist" ฟากผู้บริหารหนุ่ม "วริศ บูลกุล" ท็อปฟอร์มผนึกพันธมิตร Binance และบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ Global Scale มากมาย เร่งลงทุน Web 3.0 Decentralized Blockchain ลุยออกแบบโครงการ NFT จ่อผุดโปรเจ็กต์ใหม่พรึ่บ (ที่มา ทันหุ้น)