ยังกังวลรัสเซีย-ยูเครน (2 มีนาคม 2565)

ยังกังวลรัสเซีย-ยูเครน (2 มีนาคม 2565)

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มไอซีที และค้าปลีก ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติต่อเนื่อง

ทำให้ดัชนีปรับตัวทดสอบบริเวณ 1,700 จุดก่อนจะย่อตัวลงมา ติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน ในรอบถัดไป ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,694.28 จุด +9.10 จุด +0.54% มูลค่าการซื้อขาย 91,815 ลบ. ต่างชาติ +4,022.22 ลบ. TFEX +11,548 สัญญา ตราสารหนี้ -5,425.25 ลบ.


ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 7.69 ดอลลาร์ +8% ปิดที่ 103.41 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครนจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน และการที่ IEA มีมติระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองจำนวน 60 ล้านบาร์เรลเป็นการตอกย้ำว่าอุปทานน้ำมันโลกมีไม่เพียงพอที่จะรับมือกับภาวะ ชะงักงันในขณะนี้
+ สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 1.3%MoM ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนธ.ค.
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ 55.5 ในเดือนม.ค.
+ จีนรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 50.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.1 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.9
+ ยอดส่งออกของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 20.6%YoY ในเดือนก.พ. เนื่องจากการส่งออกชิป ยานยนต์ และสินค้าสำคัญอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
+ ปธน.อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโกแห่งเบลารุส เปิดเผยว่ากองกำลังของเบลารุสจะไม่ร่วมมือกับกองทัพรัสเซียเพื่อเข้าบุกยูเครน
+ ครม. มีมติเห็นชอบการจัดทำความตกลง Air Travel Bubble ระหว่างไทย-อินเดียตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการประสานงานจนได้ข้อสรุปของการจัดทำความตกลง Air Travel Bubble ระหว่างไทย-อินเดีย

 

 

 

 

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ร่วงลง 597.65 จุด หรือ -1.76% กังวลสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากชาติมหาอำนาจพร้อมใจคว่ำบาตรรัสเซีย
- นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะยังคงใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายหลักในการปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของชาติตะวันตก แต่จะไม่ยึดครองยูเครนและจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตของพลเรือน
- EU ตัดสินใจคว่ำบาตรกลุ่มบุคคลสำคัญของรัสเซียทั้งหมด 26 ราย โทษฐานที่รัสเซียยกพลรุกรานยูเครน โดยหนึ่งในนั้นคือนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย
- มาสเตอร์การ์ด อิงค์ ระงับการให้บริการเครือข่ายชำระเงินกับสถาบันการเงินของรัสเซียหลายแห่ง ตามมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่มุ่งลงดาบรัสเซียฐานรุกรานยูเครน
- ธปท.รายงานผลสำาวจเรื่องผลกระทบจากโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) พบว่าภาคเอกชนมองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเปราะบาง ขณะที่กำลังซื้อที่อ่อนแอจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 22,197 ราย มีผู้เสียชีวิต 45 ราย รักษาหาย 19,093ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากชาติมหาอำนาจพร้อมใจกันคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรงช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,685-1,700 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
 

 

• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                             IMH (Bloomberg consensus 28.02 บาท)

ยังกังวลรัสเซีย-ยูเครน (2 มีนาคม 2565)

 

•4Q64 มีกำไร 139 ลบ. +1,841%YoY -32%QoQ ปี 64 พลิกมีกำไร 423 ลบ.จากขาดทุน 17 ลบ.ในปี 63 เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลประชาพัฒน์ (ถือหุ้น 100%) ที่เริ่มควบรวมงบการเงินตั้งแต่เดือนเม.ย. 64 ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นทำให้รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 44%YoY อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นสู่ 66.5% จาก 24.3% ในปี 63 ขณะที่อัตรากำไรสุทธิพลิกเป็นบวก 44% จาก -7% ในปี 63 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.90 บาท yield 4.7%

•โครงการในอนาคต 1. สร้างโรงพยาบาล IMH แบริ่ง ขนาด 600 เตียงรองรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าประกันสังคม มูลค่ากว่า 5,000 ลบ.ทำเลติดสถานี BTS แบริ่ง พื้นที่ 12 ไร่ สัญญาเช่า 30 ปี คาดจะเริ่มบริการราว 1Q68 2. นำรพ.ประชาพัฒน์ (ถือหุ้น 85%) เข้าจดทะเบียนในตลทฯ ราวปลายปี 65 เพื่อระดมทุนมาใช้สร้างรพ. IMH แบริ่ง โดยจะมีการให้สิทธิ Pre-emptive right กับผู้ถือหุ้นเดิมด้วย

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และในอนาคตแผนพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พ.ศ. 2560 - 2569 Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 446.50 ลบ. +6%YoY ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 68% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาซื้อขายที่ P/E 9.77 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นโรงพยาบาลที่เป็นคู่แข่งที่ระดับ 18.14 เท่า (CHG 9.37x, TNH 18.14x, SKR 20.8x, PRINC 219.75x ที่มา Setsmart 2 มี.ค. 65)

 

หุ้นมีข่าว

(+) SCB (Bloomberg Consensus 148.50 บาท) แบงก์ไทยพาณิชย์ (SCB) เริ่มสวอป SCBX เริ่มวันนี้ 2 มี.ค. ถึง 18 เม.ย.65 ในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX พร้อมจับตาโครงสร้างใหม่ทั้ง “คาร์ด เอกซ์” ที่ทำบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และ “ออโต้ เอกซ์” ถูกแยกออกมาจากธนาคาร ส่วนเงินปันผลมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท และการยื่นซื้อ “บิทคับ” ได้ยื่นขอกับแบงก์ชาติแล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg Consensus 14.20 บาท) เดินกลยุทธ์สู้มาร์เก็ตแคป 1 แสนล้านบาท เตรียมส่งบริษัทย่อย "พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น และวัน ออริจิ้น" เข้าตลาด ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ารายได้รวม 1.75 หมื่นล้านบาท ทำนิวไฮต่อเนื่อง พร้อมเล็งเปิดโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท เดินเกม NFT ICO Utility Token พร้อม Metaverse (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg Consensus 4.37 บาท) สบช่องประกาศรุกโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดทุกทางปีนี้ ทั้งการเจรจาดีลซื้อกิจการ เตรียมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน เฟส 2 และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมถึงขยะอุตสาหกรรม ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 18 โครงการเซ็นแล้ว รอ กฟผ. เซ็นกลับ ชูผลงานปี 2564 รายได้โต 14.8% จ่ายไฟ VSPP คลองขลุงเร็วกว่าแผน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BEM-CK (Bloomberg Consensus 10.10 , 25.20 บาท) BEM ผนึกกำลัง CK เตรียมเข้าประมูลสายสีส้มตะวันตก หากชนะมั่นใจสามารถเร่งงานวางระบบรถไฟฟ้าฝั่งตะวันออกได้ทันเปิดให้บริการปี 2568 ลุ้นกำไรทั้งปี 2565 ดีกว่าปี 2563 ที่มีกำไร 2 พันล้านบาท หนุนจากปริมาณผู้โดยสารที่ทยอยฟื้นตัว อานิสงส์จากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินถึงบางหว้า ย้ำความพร้อมทั้งฐานะการเงิน ประสบการณ์ดำเนินงาน และพันธมิตรงานโยธาที่แข็งแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)