‘ออริจิ้น’ลุยมัลติบิสสิเนสโมเดลชู7น่านน้ำใหม่ระดมทุนแสนล้านใน3ปี

‘ออริจิ้น’ลุยมัลติบิสสิเนสโมเดลชู7น่านน้ำใหม่ระดมทุนแสนล้านใน3ปี

ถอดสูตรภารกิจทรานส์ฟอร์ม “ออริจิ้น”ชู Multi-Business Model ผ่าน 7 น่านน้ำใหม่! สู่เป้าหมายระดมทุนเพิ่มมาร์เก็ตแคปตามรอยยักษ์ใหญ่ ปตท. เอสซีจี และยานแม่ SCBX สร้างการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัดทะยาน 1 แสนล้านบาทในปี 2568

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กว่า 12 ปี ออริจิ้น ปรับตัวและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ และเมกะเทรนด์ระยะยาวของโลก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค 

จากวันแรกที่มีเพียงธุรกิจคอนโดมิเนียม สู่ปัจจุบันที่มีธุรกิจใหม่จำนวนมาก และปี 2565 เตรียมสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด “ORIGIN MULTIVERSE” หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล รองรับการดำเนินธุรกิจท่ามกลางวิกฤติสงคราม และโรคระบาดโควิดที่อาจพุ่งจาก 40,000 คนต่อวันเป็น 80,000 คนต่อวันใน 2 เดือนข้างหน้า

“ORIGIN MULTIVERSE” ประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ 3.ธุรกิจบริการ 4. เมกะเทรนด์ เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และอื่นๆ ในอนาคต

ในปี 2568 สัดส่วนรายได้ 30% จะมาจากธุรกิจที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย จากที่มีอยู่ 10% ในปัจจุบันอีก 5ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วน 50%เป็นการปรับตัวสู่มัลติบิสสิเนสแพลตฟอร์มทำให้การเติบโตขยายไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงแบบเต็มรูปแบบ

“ความท้าทายใหม่คือเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ต้องจับตามองว่าจะขยายผลไปขนาดไหน ภาคเรียลเซกเตอร์การทำการค้ากับรัสเซียน้อยมากไม่ถึง 5% แต่มีผลกระทบทางอ้อมเป็นลูกโซ่ หวังว่าสงครามจะยุติเร็ว โลกกำลังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากโควิด ในฐานะผู้ประกอบการต้องพร้อมปรับแผนรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น”

ทั้งนี้ ออริจิ้น พยายามสร้างนวัตกรรมและตลาดใหม่เพื่อเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย ด้วยการขายคอนโดมิเนียมที่มีบริการหลากหลาย มูลค่าเพิ่ม พร้อมเชื่อมโยงอีโคซิสเท็มที่ครอบคลุมการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคแบบครบวงจรตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัย หนึ่งนั้นคือสินทรัพย์ดิจิทัลกับคนรุ่นใหม่ ออริจิ้น จึงมีแผนที่ออก NFT, ICO เป็นเรียลเอสเตท แบล็คโทเคน ในไตรมาส 3 รวมทั้งยูทิลิตี้โทเคน เมตาเวิร์ส
 

ปี 2565 ออริจิ้นมีแผนเปิดตัว 31 โครงการใหม่ มูลค่า 42,000 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 12 โครงการ มูลค่า 13,400 ล้านบาท คอนโด 19 โครงการ มูลค่า 28,600 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 35,000 ล้านบาท รายได้รวม 17,500 ล้านบาท

พร้อมตั้งเป้านำบริษัทลูกในเครือออริจิ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปีละ 1 บริษัท เริ่มจาก พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ปลายปีนี้ ตามด้วย วันออริจิ้น ไตรมาสแรกปี 2566 แอลฟา และออริจิ้น เฮลธ์แคร์ ในปี 2568

“เป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะผลักดันบริษัทลูกระดมทุนในตลาดฯ ปีละ 1 บริษัท 10 ปี ก็ 10 บริษัท สร้างมูลค่าเพิ่มให้ออริจิ้นเติบโตตามรุ่นพี่อย่าง ปตท.ที่มีมาร์เก็ตแคปหลายล้านล้านบาท กลุ่มเอสซีจี เอสซีบีเอ็กซ์ ที่ทำบิสสิเนสโมเดลนี้" 

การสร้างอีโคซิเต็มเกื้อหนุนแต่ละธุรกิจจะทำให้บริษัทโตแบบทวีคูณ ภายในปี 2568 ออริจิ้นและบริษัทลูกที่เข้าจดทะเบียนจะมีมาร์เก็ตแคป 1 แสนล้านบาท
‘ออริจิ้น’ลุยมัลติบิสสิเนสโมเดลชู7น่านน้ำใหม่ระดมทุนแสนล้านใน3ปี