Dow Building & Infrastructure ทุกการสรรค์สร้างเป็นจริงได้

Dow Building & Infrastructure ทุกการสรรค์สร้างเป็นจริงได้

ดาว บริษัทชั้นนำด้านวัสดุศาสตร์ ร่วมจัดสัมมนา Fast Track to the Net Zero เทรนด์การก่อสร้างในอนาคต และผลิตภัณฑ์ด้านการก่อสร้าง ซึ่งจัดโดยกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ที่จะมาช่วยตอบโจทย์ ที่น่าสนใจว่ามีอะไรบ้าง

ปัจจุบันการก่อสร้างตึกระฟ้าเพื่อทำสถิติเป็นตึกสูงที่สุดในโลก ต่างมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม ทุกตึกยังจำเป็นต้องมีความแข็งแรง ทนทาน สวยงาม และสามารถใช้งานได้จริง

ทราบหรือไม่ว่าในหมู่ตึกที่สูงที่สุดในโลกหลายๆ แห่งมีอะไรที่เหมือนกัน วันนี้จะพามารู้จักกับบริษัทระดับโลกด้านวัสดุศาสตร์แห่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่าศตวรรษ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการก่อสร้างตึกสูงที่สุดในโลกชื่อดัง มี 7 จาก 10 แห่ง รวมถึงหลายๆ อาคารชั้นนำในประเทศไทย และนวัตกรรมการก่อสร้างที่ช่วยให้ทุกการสร้างสรรค์เป็นจริงได้ จากประสบการณ์กว่า 125 ปี ที่ Dow ก่อตั้งธุรกิจ ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ ปัจจุบัน 70% ของตึกสูงที่สุดในโลก 20 อันดับแรก ใช้สินค้าของ Dow เป็นองค์ประกอบสำคัญ และจาก 10 ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก มี 7 แห่ง ที่ใช้นวัตกรรมด้านการก่อสร้างของธุรกิจ Dow Building & Infrastructure

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 นวัตกรรมของ Dow Building & Infrastructure ได้ช่วยให้สถาปนิกสร้างสรรค์ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกชีวิต และพัฒนาตึกสูงระฟ้าใจกลางมหานครทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ตึกที่สูงที่สุดในโลก "เบิร์จ คาลิฟา หรือ เบิร์จ ดูไบ" ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยสถิติความสูงที่ 828 เมตร มีทั้งหมด 163 ชั้น เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นสิ่งก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล ส่วนในประเทศไทย นวัตกรรมของ Dow ก็ได้ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างหลายๆ อาคาร อาทิ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 SAT-1 ส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น

การก่อสร้างอาคารเหล่านี้ ล้วนต้องอาศัยนวัตกรรมซิลิโคนยาแนวประสิทธิภาพสูง ที่จะช่วยให้การก่อสร้างสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ได้

นวัตกรรมซิลิโคนยาแนวเริ่มถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างอาคารเพื่อกันรั่วซึมเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้ว นับเป็นวัสดุที่เปลี่ยนโลกไปสู่สถาปัตยกรรมแห่งอนาคต จากก่อนที่เคยเป็นตึกปูน ก็มีการหันมาใช้ซิลิโคนยาแนวเพื่องานโครงสร้างสำหรับกระจกนอกอาคาร เอื้อให้เกิดอิสรภาพทางการออกแบบ นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับอาคารแล้ว ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างจากการเปิดรับแสงธรรมชาติ จึงช่วยประหยัดการใช้พลังงานภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ซิลิโคนมีความสามารถในการทนต่อความผันผวนของอุณหภูมิได้สูงกว่าวัสดุเคลือบแบบยาง เป็นทางเลือกที่ดีกว่า จึงทนสภาพอากาศได้ดี ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความคงทนให้กับอาคารเนื่องจากทนทานต่อการขยายตัวและหดตัวจากความร้อน มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดแรงปะทะเมื่อต้องเจอกับพายุหรือแผ่นดินไหว จึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในอาคาร

 

นอกจากนี้ นวัตกรรมซิลิโคนประสิทธิภาพสูงแล้ว Dow ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เพื่อตอบโจทย์การก่อสร้างในหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สะพาน ถนน รวมถึงบรรดาตึกสูงต่างๆ และสีก็เป็นอีกหนึ่งผลงานนวัตกรรมของ Dow ซึ่งได้พัฒนานวัตกรรมสารยึดเกาะ อันเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสีและสารเคลือบผิว ทำให้ปัจจุบันสีทาอาคารมีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มขึ้น มีทั้งสีที่สามารถช่วยฟอกอากาศ และป้องกันเชื้อโรคต่างๆ สีที่ล้างสิ่งสกปรกออกได้ง่าย รวมถึงสีจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ทำให้ได้สีที่มีสารอินทรีย์ระเหย และฟอร์มาลดีไฮด์ต่ำ จึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้มาก นอกจากสีทาอาคาร Dow ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสีทาพื้นจราจรสูตรน้ำที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ซึ่งแห้งเร็ว มีความคงทนสูงไม่ต้องซ่อมแซมบ่อยๆ เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพราะมองเห็นชัดเจนในเวลากลางคืน มีสารระเหยต่ำ จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และไม่ทำร้ายสุขภาพผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ Dow ยังร่วมมือกับบริษัท "โตโยโก TOYOKO" พัฒนาฉนวนพ่นหลังคารักษ์โลก "โสะเซย์" ซึ่งเป็นฉนวน 3 ชั้น มีจุดเด่นที่ไร้รอยต่อ กันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดเสียงรบกวน ทำให้หลังคามีความทนทานมากขึ้น และผลิตด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารทำลายชั้นโอโซน

ล่าสุด เรื่องของ Circular Economy ดาวได้มีการร่วมกับประเทศสิงคโปร์ นำวัสดุใช้แล้ว เช่น พื้นรองเท้ามาบดทำพื้นสนามเด็กเล่น สนามกีฬา ลู่วิ่ง และสร้างทางจักรยาน โดยใช้ผลิตภัณฑ์สารเคลือบที่มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งาน เหมาะกับทางเท้า ช่องทางการจราจร ลานจอดรถ พื้นผิวภายในและภายนอกอาคาร รวมไปถึงทางจักรยานซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมวัสดุศาสตร์ด้านการก่อสร้างของ Dow Building & Infrastructure ที่ช่วยให้ทุกการก่อสร้างเป็นจริงได้ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกกว่าพันล้านครอบครัว

เทรนด์การก่อสร้างในอนาคต และผลิตภัณฑ์ด้านการก่อสร้างที่จะมาช่วยตอบโจทย์ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้างนั้น ท่านสามารถเข้าร่วมงานงานสัมมนา "Fast Track to the Net Zero" วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 เวลา 13.00 – 17.30 น. ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนภายในวันที่ 4 มีนาคม 2565 ได้ที่ www.bangkokbiznews.com/seminar/netzero3 เพื่อรับลิงก์ชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-338-3000 กด 1

ในอนาคต อาจมีอาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่คาดไม่ถึงและต่างออกไปจากปัจจุบัน ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และพลิกโฉมไลฟ์สไตล์ที่จะเปลี่ยนไปตามเทรนด์โลกก็ได้ คุณเห็นด้วยไหม?