กรมเจ้าท่าสั่งเอาผิดเจ้าของและคนขับสปีดโบ๊ท เหตุ "แตงโม นิดา" พลัดตก

กรมเจ้าท่าสั่งเอาผิดเจ้าของและคนขับสปีดโบ๊ท เหตุ "แตงโม นิดา" พลัดตก

กรมเจ้าท่าสั่งเอาผิดเจ้าของ และคนขับเรือสปีดโบ๊ท กรณี "แตงโม นิดา" ตกเจ้าพระยา หลังตรวจพบใบอนุญาตหมดอายุ และผู้คุมเรือไม่มีประกาศนียบัตร

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เป็นประธานในการแถลงข่าวฯ จากเหตุการณ์ ดาราสาว แตงโม นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท ในเวลา 22:30 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณสะพานพระราม 7  กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่า สาขานนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุพร้อมนำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 2101 เข้าจุดเกิดเหตุพร้อมร่วมอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำและทีมกู้ภัยทันที พร้อมบูรณาการความร่วมมือร่วมกับ กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญูในการค้นหาดาราสาวอย่างต่อเนื่อง 

กรมเจ้าท่า ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าเรือลำดังกล่าว มีชื่อว่า โคบอล 25  หมายเลขทะเบียนเรือ 646646700327  ขนาด 5.21 ตันกรอส ประเภทเรือเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต  ประเภทการใช้สำหรับสำราญและกีฬา (เรือเร็ว) บรรทุกได้ 8 คน จดทะเบียนเรือเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ณ เมืองท่าพัทยา ทะเบียนเรือหมดอายุ 27 มกราคม 2565  กรมเจ้าท่า เคยออกประกาศกรมเจ้าท่าที่ 26/ 2564 ให้เจ้าของเรือสามารถมาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือได้ต่อจากวันสิ้นสุด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯได้อีก 60 วัน ถือเป็นการขยายเวลาหรืออายุของใบอนุญาตใช้เรือออกไปได้ แต่มีข้อบังคับว่าเจ้าของเรือต้องทำการต่อสัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยที่มีผลเป็นการคุ้มครองผู้โดยสารเท่านั้น และจากการตรวจสอบพบว่าเรือมีประกันภัยคุ้มครองโดย บมจ.คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย(ประเทศไทย) และสิ้นสุดการคุ้มครอง 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาแล้ว จากฐานข้อมูลดังกล่าวจึงสรุปได้ว่าใบอนุญาตใช้เรือลำนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว สำหรับชื่อที่ใช้จดทะเบียนเรือ มีนายประภิณวิช รอดบางยาง เป็นเจ้าของเรือ แต่ขณะเกิดเหตุ เป็นนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์  หรือปอ เป็นผู้ขับเรือ และจากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลคนประจำเรือของกรมเจ้าท่า พบว่านายตนุภัทร ไม่มีใบประกาศนียบัตรคนประจำเรือแต่อย่างใด และกรมเจ้าท่าจะดำเนินการเอาผิดกับผู้ควบคุมเรือตามกฎระเบียบที่กรมเจ้าท่ากำหนด

ในส่วนภารกิจการค้นหาตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2565 กลุ่มตรวจการเดินเรือ กรมเจ้าท่า และสำนักงานเจ้าท่า สาขานนทบุรี ได้นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 2101 และ 264 เข้าร่วมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในภารกิจการค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมได้ออกประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 10/2565 เรื่อง ให้ระมัดระวังการเดินเรือเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจค้นหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย ทางสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ จึงขอให้ผู้ควบคุมเรือ เรือบรรทุกสินค้า เรือลากจูง เรือโดยสาร และเรือสำราญกีฬาที่เดินเรือจากพื้นที่กรุงเทพมหานครมุ่งสู่พื้นที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อผ่านบริเวณสะพานพระราม 7 ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ มิให้นำเรือเข้าใกล้ ให้เดินเรือช้าและเบา และให้เดินเรือชิดฝั่งด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา จนกว่าการปฏิบัติการใต้น้ำจะแล้วเสร็จ

    ทั้งนี้ เรือสปีดโบ๊ทสามารถวิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่เรือ จดทะเบียนกับกรมเจ้าท่า และต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือ ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย กรมเจ้าท่า ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยขณะโดยสารเรือ เน้นย้ำให้ผู้ควบคุมเรือแจ้งผู้โดยสารให้สวมใส่ชูชีพตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือที่มีขนาดเล็กและมีดาดฟ้าเปิด การออกมาจากตัวเรืออาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และหากพบผู้โดยสารไม่สวมใส่ชูชีพ กรมเจ้าท่าจะดำเนินการเอาผิดกับผู้ควบคุมเรือในฐานะที่ปล่อยปละละเลยผู้โดยสาร ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ตามมาตรา 291 ฐานะนายเรือไม่ปฏิบัติหรือหย่อนความสามารถ หรือประพฤติไม่สมควรแก่หน้าที่ ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน กรมเจ้าท่าจะมีอำนาจงดใช้ หรือยึดใบอนุญาตใช้เรือ ตามกฎหมายที่กรมเจ้าท่ากำหนดต่อไป