อัปเดต Test & Go เวอร์ชั่นใหม่! เริ่มลงทะเบียน 1 มี.ค.65 ปลุกดีมานด์เที่ยวไทย

อัปเดต Test & Go เวอร์ชั่นใหม่!  เริ่มลงทะเบียน 1 มี.ค.65 ปลุกดีมานด์เที่ยวไทย

“ททท.” อัปเดตการปรับมาตรการ Test & Go เดินทางเข้าไทยเวอร์ชั่นใหม่ เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 เปลี่ยนตรวจหาเชื้อโควิดในวันที่ 5 จากวิธี RT-PCR เป็น ATK และไม่ต้องจองโรงแรมในการตรวจครั้งที่ 2 แล้ว พร้อมลดวงเงินประกันฯเป็นไม่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่องการปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักรฯ มีรายละเอียดดังนี้

1. เพิ่มช่องทางประเภท Test & Go (เทสต์แอนด์โก) ทางบก โดยมีจังหวัดนำร่อง คือ หนองคาย อุดรธานี และสงขลา รวมทั้ง Test & Go ทางน้ำ เฉพาะเรือยอชต์ ในระยะแรกนี้ก่อน

2. Test & Go ยกเลิกการจองที่พักและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยปรับใช้เป็นการมอบ Self ATK ใช้ตรวจในวันที่ 5 หรือเมื่อมีอาการ และให้รายงานผลในแอปพลิเคชั่น หมอชนะ (ภาษาอังกฤษ MorChana)

3. Test & Go ทางอากาศ ให้สามารถต่อเครื่องที่เป็นเที่ยวบินในประเทศแบบ Dedicated Flight เพื่อไปสู่จังหวัดเป้าหมายที่กรุงเทพฯ (เหมือน Sandbox) ได้

4. ปรับลดหลักฐานที่แสดงวงเงินประกันฯ จาก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นไม่น้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเดินทางทุกประเภท

“มาตรการที่ปรับใหม่นี้จะเริ่มรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เพื่อเดินทางถึงประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป”

รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก.) ระบุว่า หลังจากรัฐบาลกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go รอบใหม่ ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ เริ่มเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการเก็บสถิติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่ามีจำนวนผู้เดินทางจริงเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1-22 ก.พ.2565 สะสมที่ 151,578 คน

แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go จำนวน 94,223 คน ประเภทแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) จำนวน 49,519 คน ประเภทกักตัว 7 วัน จำนวน 6,272 คน ประเภทกักตัว 10 วัน จำนวน 1,564 คน

สำหรับ ประเทศต้นทางที่มีผู้เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1          รัสเซีย 13,063 คน

อันดับ 2          เยอรมนี 10,412 คน

อันดับ 3          ฝรั่งเศส 8,900 คน

อันดับ 4          สหราชอาณาจักร 8,499 คน

อันดับ 5          สิงคโปร์ 6,042 คน

อันดับ 6          สหรัฐอเมริกา 5,397 คน

อันดับ 7          สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5,198 คน

อันดับ 8          ออสเตรเลีย 4,668 คน

อันดับ 9          คาซัคสถาน 3,969 คน

อันดับ 10        อิสราเอล 3,472 คน

และจากประเทศอื่นๆ 81,958 คน

 

สำหรับสถิติในช่วง 3 เดือนแรกนับตั้งแต่ “เปิดประเทศ 1 พ.ย.2564” ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go ก่อนจะมีการปิดระบบลงทะเบียน Test & Go เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2564-31 ม.ค.2565 เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

พบว่าเมื่อเดือน พ.ย.2564 มีผู้เดินทางจริงเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ จำนวนรวม 133,061 คน แบ่งเป็นประเภท Test & Go จำนวน 106,211 คน ประเภทแซนด์บ็อกซ์ จำนวน 21,438 คน ประเภทกักตัว 7 วัน จำนวน 1,743 คน ประเภทกักตัว 10 วัน จำนวน 3,654 คน และประเภทกักตัว 14 วัน จำนวน 15 คน

เดือน ธ.ค.2564 มีผู้เดินทางจริงเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ จำนวนรวม 290,617 คน แบ่งเป็นประเภท Test & Go จำนวน 240,552 คน ประเภทแซนด์บ็อกซ์ จำนวน 42,867 คน ประเภทกักตัว 7 วัน จำนวน 2,597 คน ประเภทกักตัว 10 วัน จำนวน 3,886 คน และประเภทกักตัว 14 วัน จำนวน 715 คน

เดือน ม.ค.2565 มีผู้เดินทางจริงเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ จำนวนรวม 189,193 คน แบ่งเป็นประเภท Test & Go จำนวน 70,704 คน ประเภทแซนด์บ็อกซ์ จำนวน 83,825 คน ประเภทกักตัว 7 วัน จำนวน 31,287 คน ประเภทกักตัว 10 วัน จำนวน 3,053 คน และประเภทกักตัว 14 วัน จำนวน 324 คน

และเมื่อรวมผู้เดินทางจริงเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564-22 ก.พ.2565 พบว่ามีจำนวนสะสมแล้ว 764,449 คน