Sideways เก็งกำไร KBANK EA NCL (23 ก.พ. 65)

เนื่องจากภาวะ Risk-Off จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ตึงเครียดเพิ่มขึ้น จากการเริ่มออกมาตรการแซงก์ชั่นรัสเซีย ไฮไลท์วันนี้ คือ ตัวเลขดุลการค้าของไทยและรายงานผลกำไรบจ. เช่น BCH BDMS BEM BJC ERW MEGA OSP QH TU WICE

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

      +KTZ Portfolio: Mid-Small Cap แนะนำ DOD SAPPE TACC TFG ZEN (ซื้อ UTP) / Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP CENTEL BH SCB ADVANC BBL EA KBANK MINT KTB TTB BLA (ซื้อ PLANB)

     +Earnings Play: BLA CKP ASIAN BAM JWD XO SPALI IVL III COM7 BANPU SYNEX   

     + Dividend Play: คาดให้ยิลด์ปันผลปี 2021E >3.5% และมี %Upside ต่อราคา >10%: KGI TISCO TPIPP SENA SAT ASP HFT NYT TEAMG NER BANPU SIS ORI TWPC

    +/-กลุ่มรับผลกระทบจากยูเครน: +หุ้นอิงน้ำมันดิบโลก (Stock Gain) PTTEP PTT TOP –หุ้นอิงท่องเที่ยว สำยกำรบิน รับเหมาฯ

 

ปัจจัยบวก

- Thailand: ครม. เห็นชอบปรับลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (CBU) ประกอบสำเร็จรูปนำเข้าทั้งคัน ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) และกำรนำเข้าทั่วไปในปี 2022-23 (เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่)

ปัจจัยลบ

       Geopolitical Risk: ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนเพิ่มสูงขึ้น หลังจากวุฒิสภารัสเซียมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สามารถใช้กองทัพรัสเซียนอกประเทศได้ เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดภาวะสงครามระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

       COVID-19: สธ. ยกระดับเตือนภัย COVID-19 เป็นระดับ 4 และศบค.ชุดใหญ่เตรียมประชุมวันนี้ เพื่อรับมือยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้อยู่ที่ 18,363 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ATK สูงถึง 14,405 ราย

 

ประเด็นสำคัญ

     - ไทย รายงานตัวเลขนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้าเดือน ม.ค. โดย Consensus คาด ขาดดุล-USD0.3bn ขณะที่การนำเข้าและส่งออกจะขยายตัว 22.15% และ 19.6% ตามลำดับ

     - EU ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. โดย Consensus คาดอยู่ที่ +5.1% YoY และ +0.3% QoQ

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นวันที่ 2: ตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรงในช่วงเปิดตลาด ตามการลดลงของตลาดหุ้นภูมิภาค ก่อนรีบาวนด์จากจุดต่ำสุดที่ 1,673.60 จุด มาปิดตลาดที่ 1,691.12 จุด -3.20 จุด วอลุ่มซื้อขาย 9.3 หมื่นล้านบาท นำลบโดยกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ -1.62% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.33% ธนาคาร -0.56% พาณิชย์ -0.33% หุ้นบวก >4% SCI GIFT TKN SVI TNITY THG NUSA TIDLOR CHG J TEAM THREL ETC AGE SKN หุ้นลบ >4% AQ GC NMG PPPM SA NCAP SNC EASTW PAP IRPC

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ: DJIA -1.42% S&P500 -1.01% NASDAQ -1.23% หลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ส่วนหุ้นยุโรป CAC40 -0.01% DAX -0.26% FTSE +0.13% แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มท่องเที่ยว ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซีย

+ ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +USD1.70 ปิดที่ USD91.91/บาร์เรล Brent +USD1.45 ปิดที่ USD96.84/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปเตรียมแถลงคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ ส่วนราคาทองคำเพิ่มขึ้น +USD7.60 ปิดที่ USD1,907.40/ออนซ์ กังวลสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ
 

- UK: นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลอังกฤษพร้อมประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซีย หลังจากประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้การรับรองเอกราชแก่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน และส่งกำลังทหารเข้าไปยัง 2 แคว้นดังกล่าว ซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย

+ USA: ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 51.1 ในเดือน ม.ค. ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 57.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.5 ในเดือน ม.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 56.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 51.2 ในเดือน ม.ค.

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BLA SPALI ASIAN

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: KBANK EA NCL

Derivatives: รอเปิด Long S50H22 เมื่อย่อตัว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)