SAK พอร์ตสินเชื่อปี 64 ทะลุเป้า 8,685ลบ.หนุนกำไรโต8.1% ปันผล 0.116บาท/หุ้น

SAK พอร์ตสินเชื่อปี 64 ทะลุเป้า 8,685ลบ.หนุนกำไรโต8.1% ปันผล 0.116บาท/หุ้น

SAK โชว์พอร์ตสินเชื่อปี64ทะลุ 8,685ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 607.5ล้านบาท เติบโต 8.1% ปี65 หนุนปล่อยสินเชื่อแตะ 11,379 ลบ.-ขยายสาขาใหม่210แห่ง พร้อมปันผล 0.116บาท /หุ้น

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ ‘ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ เปิดเผยว่าบริษัทปี 2564 พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 8,685ล้านบาท เติบโต 35.6%สูงกว่าเป้าหมาย ส่งผลให้รายได้รวมจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมและบริการอยู่ที่1,839ล้านบาทเติบโต14.3%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการที่พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 2,279 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

SAK พอร์ตสินเชื่อปี 64 ทะลุเป้า 8,685ลบ.หนุนกำไรโต8.1% ปันผล 0.116บาท/หุ้น

ขณะที่กำไรสุทธิ 607.5ล้านบาท เติบโต 8.1%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตราค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม หรือ Cost to Income อยู่ที่ 50% และมีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อโดยเฉลี่ย (Yield on Loan) อยู่ที่ 24.4% นอกจากนี้ SAK ยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่มีความรัดกุม จึงควบคุมหนี้ NPLs ให้อยู่ในระดับ 2.2%ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

ความสำเร็จของผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 23กุมภาพันธ์ 2565 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.116บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 243ล้านบาท โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27เมษายน2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 พฤษภาคม2565นี้

กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง กล่าวว่า สำหรับวิสัยทัศน์ปี 2022 บริษัทฯ มุ่งก้าวสู่ผู้นำให้บริการสินเชื่อที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากยั่งยืนโดยปล่อยสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสร้างรายได้ของชุมชนท้องถิ่น และพัฒนาขีดความสามารถการให้บริการที่ดีขึ้น

โดยบริษัทฯ วางแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อครบครันตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น ล่าสุดSAK ได้สนับสนุนสินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตรเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนแก่เกษตรกรนำเทคโนโลยีมาส่งเสริมผลิตภาพการทำเกษตรกรรม ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตทางเกษตรด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง รวมทั้งขยายสาขาให้ครบ 930สาขาในปี 2565 จากเมื่อปีที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 720สาขา ตลอดจนมุ่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีและสารสนเทศโดยพัฒนา “Mobile Application”ยกระดับการให้บริการรับชำระเงินเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับลูกค้า

“เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งร่วมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อนำไปประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนในทุกอาชีพ ทั้งการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกร หรือฐานทุนต่างๆ สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน การเพิ่มผลิตภาพ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ซึ่งในปีนี้มีแนวโน้มความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิด-19 ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น  ประชาชนมีความต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำเงินไปประกอบอาชีพรับกับเศรษฐกิจฟื้นตัวโดยจากแผนธุรกิจในปี 2565 มั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 11,379ล้านบาท