วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (23 ก.พ. 65)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังวิกฤติรัสเซีย-ยูเครนยังคงยืดเยื้อ ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบปรับลดลง
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เทกซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังตลาดกังวลต่อวิกฤติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ล่าสุดสหรัฐฯ และยุโรปประกาศคว่ำบาตรรัสเซียทางการค้าและการเงินรวมถึงการทำธุรกรรมต่างๆกับธนาคารรัสเซีย สำหรับเยอรมนีได้ระงับโครงการท่อส่งก๊าซ North Stream 2 ที่มีมูลค่ากว่า 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดีดตัวสูงขึ้น
+ อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวเพิ่มขึ้น หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไนจีเรียออกมาประกาศ ว่าไนจีเรียอาจยังไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิตเช่นเดียวกับกลุ่มโอเปค ที่ยังคงแผนเดิมในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเห็นว่าอุปทานอาจไม่ตึงตัวมากนัก หากสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน และอิหร่านสามารถกลับมาส่งออกได้อีกครั้งในปีนี้
+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 18 ก.พ. 65 ปรับลดลงกว่า 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเลดลงที่ 0.92 ล้านบาร์เรล สำหรับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงที่ 0.55 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซินของประเทศซาอุดิอาระเบียปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากปริมาณสต็อกน้ำมันดีเซลของประเทศซาอุดิอาระเบียปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า







