BEC ผลประกอบการ 4Q64: ดีกว่าคาด (21 ก.พ. 2565)

BEC ผลประกอบการ 4Q64: ดีกว่าคาด (21 ก.พ. 2565)

กำไรสุทธิของ BEC ใน 4Q64 อยู่ที่ 295 ล้านบาท (+107% QoQ, +10% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา 13% และดีกว่าที่ตลาดคาด 5% โดยผลประกอบการในปี 2564 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 761 ล้านบาทจากที่ขาดทุนสุทธิ 214 ล้านบาทในปี 2563

รายได้เพิ่มขึ้น หนุนกำไร QoQ ส่วนต้นทุนที่ลดลงช่วยผลักดันการเติบโตของกำไร YoY

กำไรสุทธิที่สูงเกินคาดเป็นเพราะรายได้ค่าโฆษณาสูงกว่าที่คาดไว้ 3% รวมทั้งมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขาย ต่ำกว่าที่คาดไว้ 4.5% โดยปัจจัยสำคัญที่หนุนให้กำไรโตแรง QoQ คือรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.6 พันล้านบาท (+25% QoQ) เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 29% QoQ เป็น 1.37 พันล้านบาท ตามอัตราค่าโฆษณา และอัตราการขายเวลาโฆษณาที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจขายคอนเทนท์ไปต่างประเทศ (Global Content Licensing -GCL) และคอนเทนท์บนแพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 221 ล้านบาท แม้รายได้จะลดลง 7% YoY ตามรายได้จาก GCL ลดลงเพราะไม่มีการออกอากาศละครแบบคู่ขนานพร้อมกันในประเทศไทย และจีนใน 4Q64 จากที่เคยมีการออกอากาศละครแบบคู่ขนานสองเรื่องใน 4Q63 แต่กำไรยังคงเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากต้นทุนลดลง 14% และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 35%

 

คาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป

ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรของ BEC จะลดลง QoQ ใน 1Q65 เนื่องจาก i) ปัจจัยฤดูกาล และ ii) COVID-19 ที่กลับมาระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2565 แต่เราคาดว่ากำไรของบริษัทจะยังเพิ่มขึ้น YoY จากฐานที่ต่ำใน 1Q64 ขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรของ BEC จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป เนื่องจาก i) คาดสถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้น ทำให้มีการจับจ่ายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการซื้อสื่อโฆษณาด้วย ii) เราคาดว่าจะมีจำนวนละครใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้จากบริการดิจิทัลของบริษัท (การออกอากาศบนแพลตฟอร์มออนไลน์) และ iii) เราคาดว่ารายได้จาก GCL จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการออกอากาศละครแบบคู่ขนานในประเทศจีน หลังจากที่การผลิตรายการกลับมาเป็นปกติตั้งแต่ 4Q64

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-66 เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 4Q64
 

เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่แข็งแกร่งกว่าคาดใน 4Q64 เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-2566 ขึ้นจากเดิม โดยเราได้ปรับสมมติฐานสำคัญดังนี้ i) ปรับเพิ่มรายได้ค่าโฆษณาของปี 2565F และ 2566F ขึ้นอีก 2% ii) ปรับลดต้นทุนปี 2565F-2566F ลง 2% จากการลดต้นทุนค่าผลิตรายการลง iii) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2565F-2566F ขึ้นอีก 9% - 10% ตามฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่ปรับสมมติฐานดังกล่าว ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ของเราเพิ่มขึ้นจากเดิม 12% เป็น 1.1 พันล้านบาท และปี 2566F เพิ่มขึ้น 9% เป็น 1.3 พันล้านบาท ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมรายได้จากธุรกิจใหม่ เช่น เพลง และภาพยนตร์ ในประมาณการของเรา

 

Valuation and action

ภายใต้ประมาณการใหม่ ราคาเป้าหมายปี 2565 จากเดิม 16.10 บาทเป็น 18.00 บาท (PER ที่ 32.3 เท่า)
โดยเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” BEC

 

Risks

รายได้ค่าโฆษณา และ GCL ต่ำกว่าที่คาดไว้