กังวลยูเครน-รัสเซีย (21 กุมภาพันธ์ 2565)

กังวลยูเครน-รัสเซีย (21 กุมภาพันธ์ 2565)

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงเช้าตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ก่อนที่ดัชนีจะฟื้นตัวเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หุ้นกลุ่มขนส่ง ไอซีที และค้าปลีกปรับตัวขึ้นได้ดี เช่น AOT, BTS, BEM และ TRUE +10.68%, DTAC +8.47%

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน กดดันดัชนี นักลงทุนติดตามรมว.ต่างประเทศรัสเซีย-สหรัฐ เตรียมเจรจาปมยูเครนในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,713.20 จุด +1.62 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 95,680 ลบ.ต่างชาติ -1,777.47 ลบ. TFEX +436 สัญญา ตราสารหนี้ +1,652.82 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ สภาพัฒน์ เผย GDP ปี 64 โต 1.6% ดีกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.2% GDP 4Q64 ขยายตัว 1.9%
+ WHO ออกคำแนะนำใหม่สำหรับประเทศที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น ลดระยะเวลากักตัวลงเหลือ 14 วันในบางกรณีซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศที่บริการด้านสาธารณสุขมีแรงกดดันหนัก
+ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กำลังเล็งที่จะอนุมัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้
+ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า หลังมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้จูงใจคนซื้อรถอีวีมากขึ้น และทำให้ยอดขายรถประเภทบีอีวีในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4,500-5,000 คัน เทียบกับกรณีไม่มีมาตรการนี้ที่อาจมียอดขายเพียง 3,500 คัน
+ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าในปี 2565 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีโครงการที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว หรือ 81,226 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 4.28 แสนล้านบาท ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

 

ปัจจัยลบ

- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 18,883 ราย ATK 15,010 ราย มีผู้เสียชีวิต 32 ราย รักษาหาย 14,914 ราย
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 232.85 จุด -0.68% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA ลดลง 1.9%นลท.เทขายหุ้นออกมาก่อนวันหยุดยาวของสหรัฐ วิตกสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นในยูเครน ขณะที่สหรัฐเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน
 

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 69 เซนต์ -0.8% ปิดที่ 91.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้ ถูกกดดันจากความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกอีกครั้ง
- รัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในฮ่องกงพุ่งแตะ 90% และศูนย์กักตัวถึงขีดจำกัดแล้ว เนื่องจากเผชิญปัญหาในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์จากการใช้กลยุทธ์กลยุทธ์ Zero-Covid ของจีนแผ่นดินใหญ่
- คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันว่าจะพยายามใช้การทูตกับรัสเซีย แต่พร้อมคว่ำบาตรหากบุกยูเครน
- กองกำลังเพื่อการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซียดำเนินการซ้อมรบครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของปธน. วลาดิเมียร์ ปูติน หลังวิกฤตการณ์ยูเครนรุนแรงยิ่งขึ้น

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังสหรัฐเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ในประเทศยังอยู่ในระดับสูง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,700-1,720 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT TOP PTTGC
• มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
• FTSE Global Equity Index Series (ใช้ราคาปิด 18 มี.ค.65) : Large Cap : - , Mid Cap : - , Small Capหุ้นเข้า : TIPH JTS SINGER หุ้นออก: UV WHART , Micro Cap หุ้นเข้า : 2S, ACC, AQ, APCO, B, BIG, CEN, CTW, CMR, CV, CGH, ECL, EE, FORTH, GJS, IT, MILL, MTI, METCO, NTV, PAP, PTL, SUC, CFRESH, SF, SY, BFIT, SCM, TOG, TVI, TRC, UBE, UVAN, UV, VNG, WICE หุ้นออก : BYD, TIPH, MK, NEX, OISHI, QHHR, SABUY, SINGER, SYNEX, XPG

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

TIDLOR (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 46.50 บาท)
Consensus คาดกำไร 4Q64 +26%%yoy -4%QoQ

•คาดวันนี้จะส่งงบปี งวด 4Q64 เป็นช่วงไฮซีซั่นหนุนสินเชื่อเติบโตดี NIM 4Q64 ดีกว่า 3Q64 ขณะที่คชจ.ในการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาล ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดทิศทางผลประกอบการ 4Q64 ทรงตัว QoQ เติบโต YoY เมื่อเทียบกับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปี 64 15-20% ทำได้ดีเกือบถึงกรอบบน ขณะที่รายได้ขายประกันเติบโตดีในทิศทางเดียวกันที่ระดับ 25-30% หนุนผลประกอบการทั้งปีเติบโต Bloomberg Consensus คาดกำไร 4Q64 เฉลี่ย 782 ล้านบาท +26%%YoY -4%QoQ คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 3,155 ล้านบาท +31% และเติบโตต่อเนื่อง 26%YoY เป็น 3,977 ล้านบาท ในปี 65 ทั้งนี้ 9M64 มีกำไรสุทธิ 2,374 ล้านบาท +32%YoY

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้ค่านายหน้าจากการรับประกันและการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเติบโตดี และยังมีโอกาสเติบโตแบบ inorganic ในอนาคตจากการที่บริษัทจัดตั้ง Investment Committee เพื่อพิจารณาการลงทุนในลักษณะ M&A ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน ราคาหุ้น -4.8%YTD และยังต่ำราคา IPO 36.50 บาท แนะนำซื้อ

 

หุ้นมีข่าว

(+) STGT (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) บอร์ดไฟเขียวทุ่ม 3.6 พันล้านบาท ซื้อหุ้นคืน จัดหนักปันผลงวดไตรมาส 4/2564 ที่ 0.65 บาทต่อหุ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2564 ทำนิวไฮ มีกำไร 2.37 หมื่นล้านบาท และมีรายได้ 4.75 หมื่นล้านบาท จากดีมานด์ถุงมือยางและราคาขายที่เพิ่มขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TRUE-DTAC (Bloomberg Consensus 5.09 , 48.50 บาท) บอร์ด TRUE-DTAC ไฟเขียวควบบริษัท พร้อมแลกหุ้นบริษัทใหม่ ในอัตรา 1 หุ้นเดิม TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิม DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นบริษัทใหม่ โดยใช้โมเดล CAT ควบรวม TOT เป็น NT ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติวันที่ 4 เม.ย. 65 คาดควบบริษัทเสร็จสิ้นภายในปี 65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) DITTO (Bloomberg Consensus - บาท) บอสใหญ่ DITTO "ฐกร รัตนกมลพร" แย้มแผนศึกษาธุรกิจคาร์บอนเครดิต คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ พร้อมส่งซิกธุรกิจไตรมาสแรกสดใส หลังบริษัทลูกคว้างานรัฐหลายโครงการมูลค่า 1.02 พันล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 โตต่อ 15-20% แย้มงบดิจิทัลจ่อออกอีก 200-300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TQR (Bloomberg Consensus - บาท) ตามเทรนด์โลก คลอดประกันภัยไซเบอร์ พบดีมานด์จากองค์กรใหญ่เพียบ บอสใหญ่ "ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์" ส่องทิศทางปีเสือผลงานโตต่อ เล็งคลอดโปรดักต์ใหม่ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมเผยแผนควบรวมใกล้จบไตรมาส 1/2565 (ที่มา ทันหุ้น)