TFM - ต้นทุนสูงกดดันกำไร (15 กุมภาพันธ์ 2565)

TFM - ต้นทุนสูงกดดันกำไร (15 กุมภาพันธ์ 2565)

เราคาดกำไร 4Q ลดลง 18% yoy และ 17% qoq เป็น 58 ลบ. และเราคาดต้นทุนกากถัวเหลืองที่สูงขึ้นกระทบกำไร FY22F คงคำแนะนำ ถือ TFM ปรับลด TP เป็น 14.00 บาท (จาก 15.20 บาท) อ้างอิง 16.0x FY22F PE จาก (1) กำไร FY22F ยังถูกกดดันจากต้นทุนกากถั่วเหลืองที่สูงขึ้น และ (2) อัพไซด์จำกัด

กำไร 4Q ลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

อ้างอิงข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (OIE) การใช้อาหารกุ้งในประเทศลดลง 6% yoy เป็น 435,079 ตันใน 4Q และการใช้อาหารปลาเติบโต 2% yoy เป็น 617,371 ตัน ขณะที่เราคาดรายได้การขาย 4Q เติบโต 6% yoy เป็น 1.2 พันลบ. จากผลิตภัณฑ์ใหม่; อาหารสุกรและไก่ อย่างไรก็ตามกำไรขั้นต้น 4Q อาจอ่อนแอลงเป็น 11.6% จาก 14.3% ใน 4Q20 จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองที่ปรับขึ้น 17%yoy ทำให้เราคาดกำไรสุทธิ 4Q ที่ 58 ลบ. (-18% yoy, -17% qoq)

 

ต้นทุนวัตถุดิบเป็นความเสี่ยงหลัก

ต้นทุนวัตถุดิบของอาหารสัตว์ประกอบด้วยปลาป่นและกากถั่วเหลือง 30%, แป้งลาลี 15%, และรายการอื่น 25% ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นกดดันกำไรขั้นต้นจาก 15-18% ในปี FY17-20 เป็น 9-11% ใน FY21F เราคาดต้นทุนกากถั่วเหลืองกระทบกำไรปี FY22F จาก (1) คาดราคากากถั่วเหลืองยังอยู่ในระดับสูงใน 1H22 จากภาวะอากาศแบบลานีญา และ (2) บริษัทมีสต๊อกวัตถุดิบเพียงพอสำหรับการผลิต 2-3 เดือน นอกจากนี้ USDA ปรับคาดการณ์ผลผลิตกากถั่วเหลืองปีเก็บเกี่ยว FY21/22 ลง 2% จาก 255.9 ล้านตันเป็น 251.4 ล้านตันเนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในทวีปอเมริกาใต้

 

คงคำแนะนำ ถือ TP ใหม่ที่ 14.00 บาท (จาก 15.20 บาท)

เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY22F ลง 8% เป็น 437ลบ. หลังปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจาก 13.5% เป็น 13.0% คงคำแนะนำ ถือ TFM จาก (1) กำไร FY22F กดดันจากต้นทุนกากถั่วเหลืองที่สูงขึ้น และ (2) อัพไซด์จำกัด TP อ้างอิง 16.0x FY22F PE