'กรมเจ้าท่า' แจ้งความร้องทุกข์ SPRC ฝืนคำสั่งระงับใช้ทุ่นเทียบเรือ

'กรมเจ้าท่า' แจ้งความร้องทุกข์ SPRC ฝืนคำสั่งระงับใช้ทุ่นเทียบเรือ

“อธิรัฐ" สั่ง "กรมเจ้าท่า" แจ้งความร้องทุกข์SPRC ฝืนคำสั่งระงับใช้ทุ่นเทียบเรือ ระบุ นายกฯ ห่วงเหตุน้ำมันรั่วซ้ำที่มาบตาพุด สั่งระดมทุกหน่วยเร่งแก้ไข ลดผลกระทบประชาชน พร้อมสั่งให้กรมเจ้าท่าออกประกาศตามขั้นตอนปฏิบัติ และให้ SPRC ปฏิบัติตามขั้นตอนแก้ปัญหาแล้ว

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงถึงเหตุน้ำมันรั่วไหลซ้ำเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ในระดับ Tier 1 (น้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน)

โดยพบฟิล์มน้ำมันดิบ(สีเงิน) บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึก แบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ประมาณ 3 ไมล์ ใกล้กับจังหวัดระยอง ซึ่งกรมเจ้าท่าได้เคยมีคำสั่งระงับการใช้งานทุ่นเทียบเรือดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 ส่วนสาเหตุการรั่วไหล

เบื้องต้นทราบว่าเกิดจากการที่บริษัทฯ ได้ยกท่ออ่อนขนถ่ายน้ำมันบริเวณทุ่นลอยขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล จุดที่พบการรั่วไหลก่อนหน้าขึ้นมาตรวจสอบ แต่พบว่ามีน้ำมันค้างท่ออยู่ จนทำให้เกิดรั่วไหลลงทะเลอีกครั้ง และภายหลังเกิดเหตุกรมเจ้าท่าได้เร่งดำเนินการ ดังนี้
   

1. ออกประกาศกรมเจ้าท่าให้ระมัดระวังการเดินเรือ และระมัดระวังความปลอดภัย


2. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาระยอง ได้แจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ในการกระทำดังกล่าวฝ่าผืนคำสั่งระงับใช้ทุ่นเทียบเรือ และก่อให้เกิดมลพิษฯ

 3. มีหนังสือแจ้งให้บริษัทฯ ดำเนินการปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุฯ ในระดับ Tier 1 และแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบเพื่อเตรียมการรองรับเหตุที่เกิดขึ้นกรณีขยายวงกว้าง

4. ได้สั่งการให้บริษัทฯ เข้าระงับเหตุฯ อาทิ ล้อมบูม จัดเรือสนับสนุน และรายงานผลการทำงาน

5. กรมเจ้าท่า จัดเรือตรวจการณ์ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

\'กรมเจ้าท่า\' แจ้งความร้องทุกข์ SPRC ฝืนคำสั่งระงับใช้ทุ่นเทียบเรือ

 

\'กรมเจ้าท่า\' แจ้งความร้องทุกข์ SPRC ฝืนคำสั่งระงับใช้ทุ่นเทียบเรือ

นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการขจัดคราบน้ำมันเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งให้เร่งประสานบริษัทฯ ตรวจสอบจุดที่รั่วไหลว่ายังคงมีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในท่ออีกหรือไม่ เพื่อการวางแผนและเตรียมการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ