ชีวาทัยแตกไลน์ขายบ้านมือสองตั้งเป้า3ปีสร้างรายได้‘400ล้าน’

ชีวาทัยแตกไลน์ขายบ้านมือสองตั้งเป้า3ปีสร้างรายได้‘400ล้าน’

ชีวาทัย เขย่าตลาดบ้านมือสอง ผุด" Chewa Renue" ขับเคลื่อนธุรกิจ ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ 400 ล้านบาท เผยแผนตลาดปีนี้ีเตรียมเปิด 6 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดสิ้นปีรายได้ 3 พันล้านบาท

นายบุญ ชุนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองมีทิศทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยจุดขายที่สำคัญคือ “ทำเล”และ “ขนาด” ที่เข้ามาตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตแบบนิวนอร์มอล ดังนั้นบริษัทจึงตั้งทีมรุกธุรกิจตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง ภายใต้ชื่อ “ CHEWA RENUE “ โดยนำจุดเด่นด้านการตรวจสอบคุณภาพ บริการหลังการขาย และเพิ่มแผนการตลาดพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงตลาดให้มากขึ้น

“ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาได้ส่งทีมงานเข้าไปประมูลสินทรัพย์ที่กรมบังคับคดีมาเพื่อรีโนเวทแล้วขายต่อ เนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และรายใหญ่ไม่ทำกัน เพราะเน้นการซื้อที่ดิน 200-300 ไร่ เพื่อมาพัฒนาโครงการเองมากกว่า"

แต่ชีวาทัยมองว่า ที่ดินในทำเลบางทำเลไม่มีแล้วหรือเป็นราคาที่แพงมาก แต่ทำเลเหล่านั้นเป็นทำเลที่ผู้บริโภคต้องการ และมีโครงการหลายโครงการที่ขายมากกว่าครึ่งหรือขายหมดไปแล้ว ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพดีแต่ผู้กู้ประสบปัญหาเรื่องของการเงินจึงถูกยึดไป

ประกอบกับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดทำให้ผู้ซื้อหันมามองหาบ้านมือสองที่มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับบ้านมือหนึ่ง ซึ่งตอบโจทย์กำลังซื้อของลูกค้าที่มีกำลังซื้อจำกัด โดยทีมงานจะเข้าไปประมูลทรัพย์จากธนาคารหรือกรมบังคับคดี แล้วนำมารีโนเวทและจำหน่ายพร้อมให้คำปรึกษายื่นกู้จนถึงกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ไม่มีใครทำมาก่อนถือเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง

นายบุญ ระบุว่า บริษัทจะเน้นการบ้านมือสอง เนื่องจากได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อเทียบกับบ้านมือหนึ่ง และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหลังโควิดที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มากขึ้นในทำเลที่คุ้นเคยและภายใต้งบประมาณที่จำกัด เพราะมีราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง 10-30% 

ขณะเดียวกันวิธีที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่งและเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในหลายทำเล ที่บริษัทไม่สามารถไปซื้อที่ดินมาทำโครงการได้ เพราะหลายทำเลไม่มีที่ดินแล้ว หรือถ้าซื้อที่ดินทำเลดีราคาแพงเมื่อพัฒนาโครงการออกมาราคาก็ต้องแพง นอกจากนี้จากการสำรวจความต้องการของผู้ซื้อพบว่าไม่ได้รังเกียจบ้านมือสองในราคาที่จับต้องได้ 

“จึงเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และเป็นโอกาสที่ดีในการขยายเข้าไปในธุรกิจนี้ เพราะเป็นตลาดใหญ่ ที่มีอัตราการดูดซับเร็ว 4-5 เดือนก็สามารถขายได้ ได้เงินกลับมาเร็ว กำไรสุทธิ 20% กำไรก่อนหัก 30% คาดว่า 3 ปีข้างหน้าจะมีรายได้400 ล้านบาท”
 

นายบุญกล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทได้วางแผนเพื่อหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มเติม ตามเป้าหมาย 6 โครงการมูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค 2-3 โครงการ มูลค่า 2,800 ล้านบาท บ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮมแบรนด์ชีวาโฮม 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท

โดยคาดว่าจะมีรายได้ 2,800-3,000 ล้านบาท เนื่องจาก 2 โครงการใหม่ที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้เป็นปีแรก และโครงการเดิมที่ยังมี Backlog ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับ 2 โครงการที่กำลังก่อสร้าง และคาดว่าจะรับรู้รายได้ตามกำหนดในปีนี้ ได้แก่ 

โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มีจำนวน 593 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท เป็นคอนโดสูง 13 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนอรุณอัมรินทร์ ใกล้สะพานพระราม 8 โดยจะพร้อมโอนและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-3 ปี 2565 และโครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส2) มีจำนวน 380 ยูนิต มูลค่า994 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์พร้อมโอนและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565คาดว่า ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ตามกำหนดในปีนี้