“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน

“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน

"ดาว" เดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน ปี 2568 ตามที่ประกาศไว้เมื่อปี 2558 พร้อมทั้งตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ดำเนินธุรกิจด้านวัสดุศาสตร์ในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี เดินหน้ามุ่งสู่ “เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน” ปี 2568 หรือ Sustainability Goals 2025 ตามที่ประกาศไว้เมื่อปี 2558 ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ช่วงที่ 3 (ปี 2559-2568) พร้อมทั้งตั้งเป้าจะเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Company 2050) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

กลุ่มดาวในฐานะผู้คิดค้นนวัตกรรมและผู้ผลิตเคมีระดับโลก เราเชื่ออย่างมากในเรื่องความยั่งยืน และปัจจุบันเข้าสู่การขับเคลื่อนในช่วงที่ 3 เรามุ่งขยายภารกิจการก้าวสู่ความยั่งยืนไปยังพันธมิตรหรือลูกค้า ผ่านนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยช่วยให้ลูกค้าใช้ทรัพยากรและพลังงานน้อยลง นำมาสู่การมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง” วิชาญ ตั้งเคียงศิริสิน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูมิภาคเอเชีย กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว

“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน

ECOFAST Pure เพื่อความยั่งยืน

หนึ่งในนวัตกรรมตอบโจทย์ความยั่งยืนจากบริษัทดาวคือ ECOFAST Pure น้ำยาปรับสภาพผ้าซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซับสี ลดการใช้น้ำ 50% ลดการใช้สารเคมี 90% ลดการใช้พลังงาน 40% ลดปริมาณการใช้สีย้อม 50% และการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการย้อมลดลง 60%

จากคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมาย ที่แสดงถึงความยอมรับในเรื่องความโดดเด่นด้านนวัตกรรม และผลกระทบที่สร้างให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอกับสิ่งแวดล้อม

โดยปี 2563 Sustainability Award สำหรับผลิตภัณฑ์ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ในเรื่องความยั่งยืน และ BIG Innovation Awards จาก Business Intelligence Group ส่วนปี 2562 รางวัล Edison Awards ผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม และปี 2561 รางวัล RD 100 Awards จากนิตยสาร R&D World นวัตกรรมที่ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อโลก

“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ โดยธรรมชาติแล้วทั้งเส้นใยผ้าฝ้ายและสีย้อมต่างมีประจุลบเหมือนกัน ทำให้เกิดการผลักกันคือ สีย้อมจะเกาะติดตัวเนื้อผ้ายาก แถมยังหลุดออกง่ายในขั้นตอนการล้าง จึงต้องมีกระบวนการอื่นๆ มาช่วยผลักเม็ดสีให้แทรกลงในเนื้อผ้า ทั้งการเติมสารเคมีและใช้ความร้อนในการย้อม

ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องนุ่งห่มในปัจจุบันจึงเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ซึ่งตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนทั่วโลกมากถึง 10% และยังก่อให้เกิดน้ำเสียถึง 20% ของโลก

วิทยาศาสตร์ปรับสภาพใยฝ้าย

วิชาญ อธิบายหลักการทำงานของ ECOFAST Pure จะทำหน้าที่ปรับประจุเส้นใยฝ้ายให้เป็นบวก จึงสามารถดึงเม็ดสีซึ่งเป็นประจุลบเข้าไปติดในเนื้อผ้าได้ทันที โดยแทบจะไม่พึ่งพาสารเคมี อีกทั้งการย้อมสามารถทำในอุณหภูมิปกติ จึงเป็นที่มาของการลดใช้สารเคมี ลดพลังงานและวัตถุดิบเม็ดสี ส่วน ECOFAST Pure ซึ่งเป็นสารเคมีในกลุ่มลดแรงตึงผิวเช่นเดียวกับน้ำยาล้างจานและน้ำยาซักผ้า เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการย้อมก็ถูกชะล้างไปกับน้ำและย่อยสลายตามกระบวนการทางธรรมชาติ

“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน

เราใช้เวลากว่า 10 ปี ในการคิดค้น ECOFAST Pure โดยร่วมมือกับ Cotton Incorporated องค์กรเอ็นจีโอที่สนับสนุนอุตสาหกรรมฝ้ายในสหรัฐ ทำการค้นคว้าวิจัยในแล็บและขยายสู่การทดสอบในสเกลเล็กๆ กระทั่งได้ผลลัพธ์ตามต้องการจึงส่งต่อให้ลูกค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์ช่วยทดสอบประเมินคุณสมบัติอยู่หลายรอบ กระทั่งให้การยอมรับและได้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดในปัจจุบัน โดย ราล์ฟ ลอเรน (Ralph Lauren) บริษัทแฟชั่นชั้นนำที่จำหน่ายเสื้อโปโล เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์หลักดังกล่าว

ราล์ฟ ลอเรน” ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักมหกรรมกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 เช่นเดียวกับ บริษัท ดาว ประกาศเปิดตัวชุดเครื่องแต่งกายที่ใช้ในพิธีปิดโตเกียวโอลิมปิกเมื่อปีที่แล้วว่า มาจากกระบวนการย้อมผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจาก Dow จึงเสมือนเป็นการประกาศลอนซ์ ECOFAST Pure ไปพร้อมกัน

“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน

กระบวนการย้อมสีเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มีการยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เช่น สูตรผสมสีเพื่อให้ได้เฉดสีตามออเดอร์ จึงมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญและความคล่องตัวอยู่ในกระบวนการเหล่านั้น เช่นเดียวกับ ECOFAST Pure ถือเป็นวัตถุดิบประเภทหนึ่งในกระบวนการผลิต เพียงแต่ขั้นตอนการย้อมจะเปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับการย้อมสีแบบเดิม เช่น การใช้ปริมาณเม็ดสีน้อยลง อาจจะไม่ต้องย้อมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิสูง ลดการเติมสารเคมี เป็นต้น ดังนั้น ECOFAST Pure จึงใช้ได้กับโรงย้อมทุกระดับ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงงานที่มีเครื่องจักรทันสมัยหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่

วิชาญ กล่าวอีกว่า จากการที่ Dow เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย จึงต้องการร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืนของประเทศไทย ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศเจตนารมณ์ในการประชุม COP26 ที่จะทำให้ประเทศบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี 2065

“ราคา” ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

ECOFAST Pure มีส่วนช่วยลดใช้พลังงานในการย้อม เมื่อลดพลังงานลงก็ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การผลิตที่ลดใช้เม็ดสีและสารเคมีก็เชื่อมโยงหมายถึงคาร์บอนฟุตปริ้นที่หายไปด้วยเช่นกัน

หลังการเปิดตัวโดย ก็ได้รับการติดต่อสอบถามมาจากอุตสาหกรรมผลิตสิ่งทอ ตลอดจนแบรนด์แฟชั่นชั้นนำหลายรายทั้งในจีน เวียดนาม อินโดนีเซียและอินเดีย ยกตัวอย่างที่อินเดีย เรามีทีมเทคนิคเข้าไปให้คำแนะนำและจัดส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปให้ทำการทดลองในแล็บ

เบื้องต้นพบว่า แบรนด์ที่ติดต่อเข้ามานั้นให้ความสำคัญในประเด็นความยั่งยืนและกำลังมองหากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่การตัดสินใจซื้อจะพิจารณาความเป็นแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากเรื่องของราคา

“ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน “ดาว” ส่ง “อีโคฟาสต์เพียว” พลิกโฉมการย้อมผ้าสู่ความยั่งยืน