กกพ. จัดประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อวอร์ด 2565 สานต่อพลังแห่งความยั่งยืน

กกพ. จัดประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อวอร์ด 2565 สานต่อพลังแห่งความยั่งยืน

"สำนักงาน กกพ." เปิด “โครงการประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อวอร์ด 2565” เฟ้นหาสุดยอดผลงานที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนอย่างไม่สิ้นสุด เป็นครั้งที่ 3

นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 10 ปี ที่กองทุนพัฒนาไฟฟ้า มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า โดยการกำกับดูแลและบริหารจัดการของคณะกรรมการ กกพ. และสำนักงาน กกพ. ได้ประกาศจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศทั่วประเทศ รวมกว่า 625 กองทุน เพื่อเป็นกลไกการดำเนินงาน

ทั้งนี้ มีการอนุมัติงบประมาณกว่า 23,600 ล้านบาท ผ่านโครงการชุมชน 62,900 โครงการ เพื่อใช้พัฒนาชุมชน และสนับสนุนให้เกิดพลังของความร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ได้เริ่มจัดการประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้าขึ้นครั้งแรกในปี 2559 และในครั้งที่ 2 ในปี 2562 ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และได้การตอบรับ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จึงได้สานต่อจัดกิจกรรม โครงการประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อวอร์ด 2565 ครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด “WE ARE CREATED INFINITY SUSTAINABLE” เราคือผู้สร้างความยั่งยืนอย่างไม่หยุดยั้ง

เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้เกี่ยวข้องได้พัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพที่ต่อเนื่อง สู่การพัฒนาชุมชน และการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.-4 มี.ค.2565 ประกาศผลมอบรางวัลได้ในช่วงเดือนพ.ค.2565

ทั้งนี้ แบ่งการแข่งขันเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. การประกวดระดับกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ 2 ขนาด ได้แก่ กองทุนขนาดใหญ่ดีเด่น และกองทุนขนาดกลางดีเด่น 2. การประกวดระดับโครงการชุมชนในพื้นที่ประกาศ แบ่งเป็น 6 ด้าน ได้แก่ โครงการชุมชนดีเด่นด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจชุมชน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณูปโภค และด้านพลังงานชุมชน และ 3. การประกวดระดับหมู่บ้านต้นแบบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า

“เป้าหมายหนึ่งเดียวกัน คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม ดังนั้น การส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในโครงการฯ ครั้งนี้ จะเป็นเสมือนการประกาศเกียรติคุณ และเป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่พร้อมจะสร้างโครงการดีๆ เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ไม่หยุดยั้ง”