คลังชี้”อาคเนย์-ไทยประกันภัย”ไม่เข้าข่ายการดูแลจากกองทุนประกันวินาศภัย

คลังชี้”อาคเนย์-ไทยประกันภัย”ไม่เข้าข่ายการดูแลจากกองทุนประกันวินาศภัย

คลังชี้กรณีอาคเนย์ประกันภัยและไทยประกันภัยปิดกิจการไม่เข้าข่ายการดูแลจากกองทุนประกันวินาศภัย เนื่องจาก เป็นการขอยกเลิกประกอบกิจการ ไม่ได้ถูกสั่งปิดกิจการ แนะลูกค้ายื่นขอคืนเบี้ยประกัน

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ว่า ทั้งสองกรณีถือว่า ไม่เข้าข่ายการดูแลจากกองทุนประกันวินาศภัย เนื่องจาก กองทุนฯ จะมีหน้าที่ก็ต่อเมื่อธุรกิจประกันภัยปิดบริษัทในกรณีที่ถูกสั่งปิดกิจการ แต่กรณี 2 บริษัทดังกล่าว เป็นการขอคืนใบอนุญาต หรือ ขอเลิกประกอบกิจการ

ขากล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบข่าวทั้ง 2 บริษัท ได้มีการเสนอแนวทางให้แก่ลูกค้าประกันภัยโควิด-19 ที่ยังไม่เคยแจ้งเคลม โดยลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ซึ่งหากถามว่า กรณีนี้จะดีกว่ากรณีที่ไปกองทุนประกันแล้วถูกปิดหรือไม่นั้น อย่างน้อยทุกคนก็ได้ช่วยดูแล หากถูกปิดแล้วไปเจ้าหนี้ทุกคนก็ต้องไปขอเฉลี่ยทรัพย์ล้มละลาย ซึ่งที่ผ่านมาการล้มละลายก็ได้รับไม่กี่บาท

ทั้งนี้ กองทุนก็ยังมีเงินอยู่ 5,000 ล้านบาท สามารถดูแลบริษัทเอเชียประกันภัย และบริษัทเดอะวันประกันภัยได้

“กรณีของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่เกี่ยวกับกองทุน โดยทั้ง 2 บริษัทขอเลิกกิจการ ไม่ได้เข้าตามกฎหมายของกองทุน แต่ในหลักการขอปิดกิจการ คปภ. ก็ไม่ได้ขัดข้อง แต่วิธีการดูแลลูกค้าก็ต้องมีรายละเอียด โดยขณะนี้ 2 บริษัท ก็อยู่ระหว่างหารือวิธีการที่จะไปดำเนินการ”

“ผมมองว่าการขอคืนเบี้ยประกัน ตามที่บริษัทประกาศออกมา ลูกค้าจะได้รับเบี้ยประกันคืนเยอะกว่า กรณีที่รอให้บริษัทปิดกิจการ จะเป็นเจ้าหนี้แล้วไปขอเฉลี่ยทรัพย์ ซึ่งบริษัทอาจจะไม่มีวงเงินเหลือ เมื่อเฉลี่ยหารจำนวนผู้คืนเบี้ยประกันออกมาแล้ว อาจจะได้รับเบี้ยคืนเหลือรายละไม่กี่บาท”

ทั้งนี้ ในส่วนของประกันที่ไม่ใช่ประกันภัยโควิด ซึ่งก็คงไม่มีปัญหา เพราะบริษัทอื่นก็พร้อมที่จะรับไปพร้อมกับเบี้ยประกันอยู่แล้ว