ขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ ARROW (1 ก.พ. 25656)

ขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ ARROW (1 ก.พ. 25656)

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย โดยในช่วงเช้าดัชนีเปิดกระโดดราว +8 จุด จากนั้นแกว่งตัวในกรอบ ระหว่าง +8 ถึง +16 จุด จากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มค้าปลีก พลังงาน และการเงิน

ส่วนกลุ่มไอซีที ปรับตัวลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,648.81 จุด +9.30 จุด +0.57% มูลค่าการซื้อขาย 68,341 ลบ. ต่างชาติ +663.05 ลบ. TFEX +14,279 สัญญา ตราสารหนี้ -6,168.71 ลบ.


ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 406.39 จุด +1.17% นลท.ช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้นเน็ตฟลิกซ์และหุ้นเทสลามีราคาพุ่ง 10% หลังนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน และการพุ่งขึ้นของหุ้นโบอิ้งซึ่งเป็นหุ้นที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ +1.5% ปิดที่ 88.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 17.2% ในเดือนม.ค.โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ
+ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นแข็งแกร่งในปีนี้จากปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมัน และความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวแข็งแกร่งหลังจากความวิตกผลกระทบของโรคโควิด-19 บรรเทาลง คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 76.23 ดอลลาร์จาก 71.38 ดอลลาร์ที่คาดในเดือนที่แล้ว
+ FDA อนุมัติใช้วัคซีนสไปค์แวกซ์ (Spikevax) ของโมเดอร์นาเพื่อใช้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
+ สธ.เชื่อภายในปีนี้โควิดลดระดับเป็นโรคประจำถิ่น/ปรับลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
+ สศอ.รายงานดัชนี PMI ปี 64 โตทะลุเป้า 5.93% รับอานิสงส์อุตสาหกรรมหลักขยายตัวต่อเนื่อง คาดทั้งปี 65 ยังขยายตัว
+ ธปท.รายงานภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. และ 4Q64 ปรับดีขึ้นกว่าคาด หนุน GDP ปี 64
+วันนี้ 1 ก.พ.เป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียน test & go รอบใหม่ ปรับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง ในวันแรกที่เข้าพักและวันที่ 5

 

 

ปัจจัยลบ 

- ธุรกิจในอังกฤษชะลอตัวมากที่สุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังความต้องการในการใช้บริการแบบพบหน้าของผู้บริโภคหดตัวจากการที่สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด
- การที่รัสเซียยังคงเพิ่มกำลังทหารบริเวณพรมแดนติดกับยูเครน ทำให้ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียอาจตัดสินใจบุกยูเครน
- พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลเตือนว่าความผันผวนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี คล้ายกับวิกฤตสินเชื่อซับไพร์มในสหรัฐที่เคยฉุดตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ทรุดหนักและจุดชนวนให้เกิดวิกฤตการเงินโลกในช่วงปี 2550-255
- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ของสหรัฐในปีนี้เหลือ 3.2% จากเดิม 3.8% เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวรุนแรงในช่วงต้นปีจากมาตรการสนับสนุนด้านการคลังลดลง
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,422 ราย ATK 2,014 ราย มีผู้เสียชีวิต 12 ราย รักษาหาย 8,715 ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้ผลดีจากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,640-1,655 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 : ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
• หุ้น Value Play KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                              ARROW
                                        ( “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 22 เท่ากับ 9.80 บาท)

• เราคาดว่าผลประกอบการในปี 22 จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 21 หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายดีขึ้น ส่งผลให้งานโครงการต่างๆกลับมาดาเนินกิจการได้ ประกอบกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐบาล คาดว่าจะออกมามากกว่า 3 แสนล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการสนามบิน โครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน โดย ณ สิ้นปี 21 บริษัทมียอด Backlog กว่า 1,000 ล้านบาท ที่จะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 21 และต่อเนื่องในปี 22 ในส่วนของราคาวัตถุดิบเหล็กมีการปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับราคาขายขึ้นราว 10-15% เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เราประมาณการรายได้ปี 21-22 ที่ระดับ 1,163.7 ล้านบาท -10.1%YoY และ 1,210.6 ล้านบาท +4.0%YoY พร้อมคาดกำไรสุทธิที่ 133.5 ล้านบาท -21.0%YoY และ 156.1 ล้านบาท +17.0%YoY ตามลำดับ

• ความเห็น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และประเมินราคาเหมาะสมอิง PER ที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ภายใต้สมมติฐานประมาณการปี 22 ราคาเหมาะสมเท่ากับ 9.80 บาท พร้อมคาด Dividend Yield ราว 5.4%

 

หุ้นมีข่าว

(+) BPP (Bloomberg Consensus 20.30 บาท) ใส่เกียร์ลุยโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม (HELE) สหรัฐเต็มสูบ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่สหรัฐ 3-4 ดีล คาดปิดดีลปีนี้ไม่น้อยกว่า 1-2 ดีล ด้านพลังงานหมุนเวียนมีลุ้นคว้าโครงการญี่ปุ่น-เวียดนาม ได้เพิ่ม มั่นใจหากปี 2568 ได้ตามเป้า 5.3 พันเมกะวัตต์ มองราคาถ่านหินเพิ่มสูงไม่กดดัน BLCP-HPC (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg Consensus 8.50 บาท) ประกาศรุกลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มที่ ตั้งบริษัทย่อยสหรัฐทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลครบ ขุดเหมือง สร้าง ผลิต ส่งเสริมตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน พร้อมเปิดทางพันธมิตรร่วมถือหุ้น พร้อมดึงบริษัทร่วม B เดินหน้าทั้งธุรกิจรองรับแพลนต์เบส และคริปโทครบวงจร บิ๊ก B รับเพิ่มผลกำไร ด้านโบรกเกอร์คาด NRF ปีนี้กำไรเด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SUPER (Bloomberg Consensus 1.20 บาท) บอร์ดไฟเขียว "ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ กรุ๊ป (ฮ่องกง)" ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นจำนวน 49% ของ SOLAR NT HOLDINGS PTE. LTD. (Solar NT) ให้กับ AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. (ACEV) มูลค่ากว่า 165 ล้านดอลลาร์ ปูทางสู่การร่วมพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่มประเทศอาเซียน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ECL (Bloomberg Consensus 2.65 บาท) "ดนุชา วีระพงษ์" เผยผลงานไตรมาส 1/2565 เติบโตมากกว่าเดิม ลุยเพิ่มพอร์ตสินเชื่อใหม่ในปี 2565 ที่ 30% หรือแตะระดับ 10,000 ล้านบาท ล็อก NPL ที่ 7-8% ล่าสุดร่วมกับ "สกุลฎ์ซี" ผู้ผลิตรถ EV เพื่อปล่อยสินเชื่อ และเดินหน้าขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)