“เอสพีซีจี” ตั้งเป้าปี 2565 ผลิตไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 388 ล้านหน่วย

“เอสพีซีจี” ตั้งเป้าปี 2565 ผลิตไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 388 ล้านหน่วย

“เอสพีซีจี” ลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมโครงการโซลาร์ฟาร์ม ตั้งเป้าปี 2565 ทั้ง 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 388 ล้านหน่วย

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ  มีโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทยทั้งสิ้น 36 โครงการ กระจายอยู่ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, ขอนแก่น, สกลนคร, หนองคาย, อุดรธานี, นครพนม, เลย, สุรินทร์, บุรีรัมย์ และลพบุรี รวมเนื้อที่ดินกว่า 5,000 ไร่ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ โดยเริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกปี 2553 ที่โครงการโซลาร์ฟาร์ม (โคราช 1) และดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครบทั้ง 36 โครงการเมื่อปี 2557 โดยสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 384.9 ล้านหน่วย

สำหรับปี 2564 ที่ผ่านมา โครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 โครงการ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 386.9 ล้านหน่วย มากกว่าที่บริษัทฯ ตั้งเป้าประจำปี 2564 กว่า 2 ล้านหน่วย แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับคุณภาพของแผงเซลล์แสงอาทิตย์และส่วนประกอบที่สำคัญของระบบ ทำให้ทุกโครงการสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 7 ปี

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตรวจเยี่ยมโครงการโซลาร์ฟาร์มอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและบริหารจัดการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้สามารถดำเนินการและผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการวางแผน ตรวจสอบ และบำรุงรักษาพื้นที่ในโครงการ นอกจากการบริหารในส่วนของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ยังได้มีการวางนโยบายปลูกพืชสวนครัว (มะละกอ) ในพื้นที่ว่างเปล่าภายในโครงการ เพื่อเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับพนักงานภายในโครงการและชุมชนบริเวณรอบโครงการ

“ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ตั้งเป้ากำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ ไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 388 ล้านหน่วย” ดร.วันดี กล่าว