“พิพัฒน์” ถก “สธ.” ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทุกภาค ตามรอยหัวหิน-ชะอำ

“พิพัฒน์” ถก “สธ.” ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทุกภาค ตามรอยหัวหิน-ชะอำ

“พิพัฒน์” เตรียมถก “สาธารณสุข” เพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตั้งเป้ามีแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์กประจำแต่ละภาค กระจายทัวริสต์จับจ่ายเม็ดเงินสู่ท้องถิ่น ตามรอย “หัวหิน-ชะอำ” หลัง “ศบศ.” เห็นชอบโครงการ “ไทยแลนด์ เวลเนส แซนด์บ็อกซ์”

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะนัดหารือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในภาคการท่องเที่ยว เพื่อพิจารณาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ “ไทยแลนด์ เวลเนส แซนด์บ็อกซ์” หลังจากเรื่องนี้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะขยายพื้นที่ในการจัดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้ได้อย่างน้อยภูมิภาคละ 1 แห่ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาจับจ่ายมากขึ้น

“เดิมกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ตั้งเป้าหมายเรื่องโมเดลการจัดทำเมืองส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพว่าอยากจะขยายไปทุกภูมิภาค นั่นคือ 1 ภาค 1 โมเดล แต่ถ้าจังหวัดไหนมีความพร้อม อยากจะทำจังหวัดตัวเองเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีศูนย์ต่างๆ รองรับ ก็สามารถเสนอเข้ามาให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯและ สธ. ร่วมกันพิจารณาผลักดันขึ้นมาได้เพื่อให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้เร็ว เพราะประเทศไทยมีจุดแข็งเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ”

สำหรับการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ผ่านมา ศบศ.ได้เห็นชอบในหลักการของแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ ด้วยการปรับภาพลักษณ์หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ของประเทศไทย พร้อมทั้งสร้างตราสินค้าแหล่งท่องเที่ยว โดยประชาสัมพันธ์หัวหินและชะอำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ควบคู่กับพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกภายใต้โครงการ “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” ผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  

นอกจากนี้ยังสามารถเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยวที่มากกว่าการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ด้วยการชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านการกำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหินและชะอำให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและเป็นที่รู้จัก รวมทั้งเพื่อเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหินและชะอำ มีโครงการส่งเสริมการตลาดและโครงการพัฒนาด้านอุปทานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

“โดย ททท.ต้องไปพิจารณาพื้นที่นำร่องในภูมิภาคอื่นๆ ที่มีศักยภาพและมีความพร้อม และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการดำเนินการในระยะต่อไป” นายพิพัฒน์กล่าว