คลังยืนยันไม่ลดภาษีเพื่อพยุงราคาน้ำมัน
คลังยันไม่ลดภาษีพยุงราคาน้ำมัน ชี้จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่รัฐบาลจะดำเนินการ โดยดูจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับสูงจนกองทุนรับไม่ไหว ขณะที่ เดินหน้าเก็บภาษีหุ้น-คริปโท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงข้อเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันว่า มาตรการภาษีจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่รัฐบาลจะดำเนินการ โดยกระทรวงการคลัง จะดูราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยเฉพาะน้ำมันดิบดูไบ ว่า ปรับขึ้นไปถึงจุดที่ไม่สามารถรับได้ ซึ่งในอดีตที่รัฐบาลประกาศลดภาษีน้ำมันลงมา ก็อยู่ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 100 เหรียญ/บาเรล
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า ถ้าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น สหรัฐอเมริกา ก็จะได้รับผลกระทบ และเชื่อว่าจะเอาสต็อกน้ำมันออกมาขายในตลาด ทั้งนี้ ความจริงประเทศในตะวันออกกลางมีแผนที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปัญหาทางเทคนิคจึงไม่สามารถทำได้ตามแผน แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า เมื่อพ้นฤดูหนาวนี้ไปแล้ว แนวโน้มราคาน้ำมันจะปรับลดลง
ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ รัฐบาลจะใช้กลไกของกองทุนน้ำมัน เป็นตัวรักษาระดับราคาน้ำมันภายในประเทศ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้อนุมัติให้กองทุน กู้เงินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อมาพยุงราคาน้ำมันภายในประเทศ จากปัจจุบันที่กองทุนมีเงินอยู่แล้ว 1 หมื่นล้านบาท จึงถือว่า ยังมีสภาพคล่อง
นอกจากนี้ นายอาคมยังได้กล่าวถึง มาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์อีวีภายในประเทศว่า ขณะนี้ มาตรการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งแผนการลดภาษีนำเข้า,ลดภาสรรพสามิต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว จะต้องมีเงื่อนไข เช่น จะต้องมีการตั้งโรงงานผลิตรถอีวีภายในประเทศ โดยเฉพาะรถปิกอัพ เพื่อรักษาฐานการผลิตรถยนต์ของไทย ขณะเดียวกันจะต้องช่วยดูแลผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย
เขากล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังยืนยันจะเดินหน้าเก็บภาษีรายได้ที่เกิดจากการทำธุรกรรมคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจาก กฎหมายกำหนดให้มีการจัดเก็บมาตั้งแต่ปี 2561 โดยผู้เสียภาษีจะเป็นผู้ประเมินรายได้ของตนเอง อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา มีปริมาณการซื้อขายคริปโทจำนวนมาก ทำให้กรมสรรพากรจำเป็นต้องกำหนดรายละเอียดการชำระภาษีที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนภาษีการซื้อขายหุ้นนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน