“ซัสโก้” เฟ้นพันธมิตร เร่งกลยุทธ์ปั้มกำไรในวิกฤติ

“ซัสโก้” เฟ้นพันธมิตร เร่งกลยุทธ์ปั้มกำไรในวิกฤติ

วิกฤติโควิดที่เริ่มต้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนี้ยังไม่รู้จุดที่จะจบลงได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับภาคธุรกิจที่ผจญวิกฤติมานานจนต้องนำไปสู่การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับโลกที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป 

นายภิมุข สิมะโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงโควิด 2ปี ที่ผ่านมา ซัสโก้ ได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยทำโซนนิ่งการแข่งขัน จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดขายปลีกซัสโก้อยู่ที่ 4% มีสถานีบริการน้ำมันจำนวน 252 สถานี ด้วยงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะเป็น 300 สถานีไม่เกิน 2-3 ปีต่อจากนี้ 

ส่วนพันธมิตรธุรกิจ เช่น ธุรกิจนอนออยล์ จะมีร้านค้าแบรนด์ดังเข้ามาเปิดสาขาในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่เพิ่ม ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นมากจากการปิดห้างสรรพสินค้า

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ผันผวน ซัสโก้ ไม่มีโรงกลั่น ดำเนินธุรกิจแบบซื้อมาและขายไป แต่รัฐบาลมีมาตรการให้ผู้ค้าน้ำมันช่วยพยุงราคา ผู้ค้าน้ำมันต่างขาดทุนเพราะขึ้นราคาไม่ได้ 

ในขณะที่ปั๊มน้ำมันในต่างจังหวัดจะใช้ 2 โมเดลคือ 1. ปรับปรุงปั๊มเดิมให้ทันสมัย และ 2. ร่วมกับ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) ปรับโฉมปั๊มน้ำมันเป็นแบรนด์เอสโซ่ในภาคอีสานแล้วกว่า 30 สถานีและจะขยายต่อไปอีก ซึ่งการจับมือกันแข่งขัน ยังลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการสร้างปั๊มน้ำมัน เนื่องจากราคาที่ดินมีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจาากับเอสโซ่ เพื่อเป็นขยายผลในภาคเหนือต่อไป

นายภิมุข กล่าวว่า สำหรับธุรกิจอีวี บริษัทฯ เป็นพันธมิตรธุรกิจกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ อีเอ ในการขยายสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV) ในปั๊มน้ำมันซัสโก้ แล้วกว่า 22 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มอีก 10 แห่ง โดยแบ่งสัดส่วนรายได้จากค่าไฟฟ้า เพราะจากเทรนด์การใช้งานรถอีวีที่มากขึ้น

“การขยายสถานีชาร์จอีวี ยังต้องรอดูแพ็คเกจสนับสนุนของรัฐบาล ทั้งเรื่องของภาษี การติดตั้งสถานีและค่าไฟฟ้าด้วย เพราะการเพิ่มสถานีชาร์จน่าจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณของรถอีวี อีกทั้งผู้ซื้อส่วนมากอาจจะนิยมชาร์จไฟฟ้าที่บ้านมากกว่า”

ทั้งนี้ หากจะสนับสนุนให้ประชาชนสนใจมาใช้รถอีวีสิ่งสำคัญคือ 1. ราคารถอีวีจะต้องถูกกว่ารถน้ำมันที่รุ่นใกล้เคียงกัน 2.ต้องส่งเสริมสถานีชาร์จทั้งเรื่องของการเข้าถึงง่าย และราคาค่าไฟถูก เพราะรถอีวีมีประโยชน์โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการก้าวสู่ Net Zero ได้อย่างดี

ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ คือเรื่องสำคัญที่ต้องพัฒนา เพราะหากใช้เวลาชาร์จหลายชั่วโมง จะไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งภายในปั๊มซัสโก้จะเป็นแบบควิกชาร์จและให้สามารถบริหารจัดการระยะทางได้ด้วยตนเองก่อนกลับถึงบ้าน และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารจัดการผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อตรวจสอบสถานีชาร์จ และจองคิว พร้อมจ่ายเงินได้ง่าย สามารถบริหารจัดการได้ดีช่วยสนับสนุนการใช้งานได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ซัสโก้ คาดว่ารายได้ซัสโก้และบริษัทย่อยปี2564 รวมอยู่ประมาณที่ 18,000 ล้านบาท ในขณะที่ ปี 2563 มีรายได้รวม 16,778 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 218 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายได้ 28,144 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 388 ล้านบาท นับว่าบริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการธุรกิจผ่านช่วงวิกฤติโควิด-19 ไปได้ในปีที่ผ่านมา และหวังว่าสภาพเศรษฐกิจค่อยๆ ดีขึ้น และกลับมาเหมือนเดิมเพื่อให้เป้ารายได้ที่เคยได้เกือบปีละ 30,000 ล้านบาท