ท่องเที่ยวมั่นใจเปิด Test & Go คาด ก.พ.ต่างชาติเข้าไทย 2-3 แสนคน

ท่องเที่ยวมั่นใจเปิด Test & Go คาด ก.พ.ต่างชาติเข้าไทย 2-3 แสนคน

เอกชนท่องเที่ยวเฮ หลัง ศบค.มีมติรีเทิร์นเปิดระบบรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภท Test & Go เริ่ม 1 ก.พ.นี้ สมาคมโรงแรมไทยประเมินตลอดเดือน ก.พ.มียอดทัวริสต์ตบเท้าเข้าไทยดีดกลับที่ 2-3 แสนคน หวังตลาดต่างชาติฟื้นเครื่องยนต์ท่องเที่ยวและมู้ดเดินทางในประเทศ

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากและต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่กลับมาเปิดระบบลงทะเบียนรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go รายใหม่จากทุกประเทศ เริ่มวันที่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป เป็นไปตามข้อเสนอที่ภาคเอกชนท่องเที่ยวต้องการ หวังว่าจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูตลาดต่างชาติเที่ยวไทย หลังจากระงับการลงทะเบียนฯมานานกว่า 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2564 เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แน่นอนว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมต้องเร่งสื่อสารข่าวดีนี้ถึงลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อดึงกลับมาเที่ยวไทยให้ทันช่วงไฮซีซั่นนี้

สมาคมฯประเมินว่าในเดือน ก.พ.นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 2-3 แสนคน ใกล้เคียงกับเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน มี.ค.นี้ซึ่งน่าจะเป็นเดือนที่เห็นการฟื้นตัวดีทั้งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศที่น่าจะมีการจัดประชุมสัมมนามากขึ้น

ทั้งนี้สมาคมฯเตรียมประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เกี่ยวกับการจัดหา Hotel Isolation ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีความพร้อมให้นักท่องเที่ยวของโรงแรมที่ติดเชื้อโควิด-19 กักตัวต่อในห้องพักโดยไม่ต้องย้ายออกไปโรงพยาบาลหรือฮอสพิเทล ในพื้นที่กรุงเทพฯเพิ่มเติม เพื่อเตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอนาคต แม้ขณะนี้ในกรุงเทพฯจะมีจำนวนเตียงโรงพยาบาลและฮอสพิเทลเพียงพอในการรองรับแล้วก็ตาม

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สทท.ขอขอบคุณ ศบค.ที่ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร อนุมัติให้กลับมาเปิดระบบการลงทะเบียนรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go จากทุกประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ สทท.มั่นใจกับการปรับมาตรการเพิ่มเติมด้านสาธารณสุข เช่น การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ทั้ง 2 ครั้ง โดยต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พักในวันแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง และในวันที่ 5 โดยเป็นโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ (SHA++, AQ, OQ หรือ AHQ) มีหลักฐานชำระเงินการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง มีการจัดระบบการตรวจสอบและกำกับการเข้าที่พัก และตรวจหาเชื้อให้ครบทั้ง 2 ครั้ง โดยนักท่องเที่ยวต้องอยู่รอในที่พักหรือสถานที่ที่กำหนดจนได้รับผลการตรวจ รวมถึงการกำหนดระบบประกันให้ชัดเจน กรณีประกันไม่ครอบคลุม ผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวที่โรงพยาบาล, ฮอสพิเทล, Hotel Isolation และกรณี HRC (ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง)

“อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go แล้ว ก็ไม่อยากให้กลับไปปิดๆ เปิดๆ อีก” ประธาน สทท.กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เมื่อฟื้นการลงทะเบียน Test & Go กลับมา อยากให้แก้ไขอุปสรรคจากการดำเนินการของภาครัฐ เรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชัน “หมอชนะ” ไม่ได้ และอยากให้รัฐบาลมีมาตรการชัดเจนทั่วประเทศไปเลย ไม่ต้องให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดไปกำหนดเอาเองว่า ให้โรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถ้าไม่ติดปัญหาต้องใช้ระบบแอร์รวมและมีพื้นเป็นพรม จะต้องมีการกันห้องพักไว้ 5% ของจำนวนห้องพักในโรงแรม เพื่อทำเป็น Hotel Isolation รองรับนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ และให้แพทย์ติดตามรักษาในรูปแบบเทเลเมดิซีน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เหมือนที่ จ.ภูเก็ต ได้ทำในรูปแบบนี้ เพราะโรงแรมในพัทยามีความพร้อมทำแบบนี้อยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาในพัทยามีฮอสพิเทล 18,000 ห้อง โรงแรมกักกันทางเลือกอีก 6,000 กว่าห้อง และมีโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาอยู่แล้ว

ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลกำหนดเรื่องการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใหม่ เพราะบางคนซื้อแค่ประกันการเดินทาง ไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพ นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนอยู่มาหลายวันบอกว่าไม่มีเงินเหลือแล้ว และโรงพยาบาลก็ไม่อยากรับ รวมทั้งประกันสุขภาพในหลายประเทศจะไม่จ่ายให้ หากนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อไม่ได้มีอาการหนักถึงขั้นนอนโรงพยาบาลด้วย

นอกจากนี้ขอให้แก้ปัญหาการลงทะเบียนเข้าประเทศเพื่อขอไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ที่บ่อยครั้งพบนักท่องเที่ยวจองห้องพักผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agents : OTA) เช่น อโกด้า และบุ๊กกิ้งดอทคอม แต่ไม่ได้จองรถรับส่งไปโรงแรม บางคนนั่งรถบัสหรือเรียกแท็กซี่มาเองก็มี ซึ่งกรณีแบบนี้หากมีการติดเชื้อจะแพร่ระบาดไปทั่ว