สกพอ.รื้อทีมบริหารใหม่ ตั้ง4รองเลขาธิการคุม EEC

สกพอ.รื้อทีมบริหารใหม่  ตั้ง4รองเลขาธิการคุม EEC

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) แปรสภาพมาจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) หลังจากมี พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ซึ่งมี คณิศ แสงสุพรรณ เป็นเลขาธิการมาตั้งแต่เป็น สกรศ.เมื่อปี 2560 จนมาถึงปัจจุบัน


แหล่งข่าวจาก สกพอ.เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2565 มีการแต่งตั้งรองเลขาธิการใหม่ 4 ตำแหน่ง ซึ่งมีเงื่อนไขการเข้ารับตำแหน่งต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี และเป็นสัญญาจ้าง โดยมีการประเมินผลงานรายปี ได้แก่

1.นายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการ สายงานพื้นที่และชุมชน โดยที่ผ่านมาได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สกพอ.หลังจากหมดวาระการเป็นผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยเข้ามาช่วยเหลืองานด้านการพัฒนาเมืองใหม่ รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้อาศัยในในอีอีซีครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง

นอกจากเคยเป็นผู้ว่าการ กคช.แล้วยังเคยเป็นเป็นรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผ่านงานบริหารในสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ การทุนไทย จำกัด (มหาชน) , บริษัทเงินทุนธีรชัย ทรัสต์ จำกัด , ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ นครธน

2.นายเพ็ชร ชินบุตร รองเลขาธิการ สายงานการลงทุนและการต่างประเทศ ควบตำแหน่งผู้บริหารกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยที่ผ่านมาเคยเป็นรองเลขาธิการสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) เมื่อปี 2560 ก่อนที่ สกรศ.จะเปลี่ยนมาเป็น สกพอ.หลังมี พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

รวมทั้งในปี 2564 ได้กลับมาทำงานใน สกพอ.อีกครั้งในหน้าที่ผู้บริหารกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยที่ผ่านมามีประสบการณ์บริหารงานในภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม , ผู้อำนวยการบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) , รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานการตลาด คุมกลยุทธ์ด้านการขาย-การตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) , ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)

3.นายธาริศร์ อิสสระยั่งยืน รองเลขาธิการ สายงานโครงสร้างพื้นฐาน โดยเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักโครงสร้างพื้นฐาน สกพอ. , ผู้ช่วยเลขาธิการ สกพอ. เริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2560 และเติบโตมาเรื่อยๆ

4.นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการ สายงานนโยบายและแผน โดยที่ผ่านมาเคยเป็นผู้ช่วยเลขาธิการ ด้านนโยบายและแผน สกพอ. และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

สกพอ.รื้อทีมบริหารใหม่  ตั้ง4รองเลขาธิการคุม EEC สำหรับการรองเลขาธิการ สกพอ.เดิมทั้ง 3 คน ที่พ้นจากตำแหน่งไป ประกอบด้วย

1.นางสาวพจณี อรรถโรจน์ภิญโญ อดีตรองเลขาธิการ ด้านนโยบายและแผน ซึ่งที่ผ่านมามีผลงานโดดเด่นในเรื่องการวางนโยบายการพัฒนาอีอีซี โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาชุมชน เมืองใหม่ การเกษตร และการยกระดับรายได้คนในอีอีซี โดยหลังจากพ้นตำแหน่งรองเลขาธิการแล้วได้เข้ารับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านนโยบายและแผนของ สกพอ.ซึ่งได้เข้าไปผลักดันการทำงานตามนโยบายอีอีซีที่ในปี 2565 จะเน้นการลงลึกในการพัฒนาชุมชน การสร้างเมืองใหม่สมาร์ทซิตี้ การพัฒนาเมืองเก่า และการยกระดับรายได้เกษตรกรในอีอีซี

2.นางลัษมณ อรรถาพิช อดีตรองเลขาธิการ ด้านการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและด้านต่างประเทศ โดยมีผลงานโดดเด่นในด้านการออกไปเจรจาดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมชั้นสูงที่เป็นรากฐานการพัฒนาประเทศจนทำให้มีอุตสาหกรรมชั้นนำเข้ามาลงทุน เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพชั้นสูงที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก ซึ่งจะต่อยอดไปสู่สินค้ามูลค่าสูงเป็นจำนวนมาก โดยใช้วัตถุดิบการเกษตรของไทย อุตสาหกรรมเทคโนโลยีวัสดุและอื่นๆ โดยหลังจากพ้นตำแหน่งครั้งนี้ได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ด้านการวิจัยนวัตกรรมภาคอุตสาหกรรม

3.นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ อดีตรองเลขาธิการ ด้านการพัฒนาพื้นที่และชุมชน ผลงานที่ผ่านมามีส่วนสำคัญในการผลักดันแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินและแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ซึ่งจะนำไปพัฒนาเป็นผังเมืองอีอีซี และมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้ความเข้าใจกับชุมชนอีอีซีทำให้ช่วยลดแรงต่อต้าน และได้รับความร่วมมือจากชุมชนในการพัฒนาอีอีซีเพิ่มมากขึ้น โดยหลังจากหมดวาระรองเลขาธิการ ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพื้นที่และชุมชน เพื่อสานต่องานการทำความเข้าใจกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง