ปรับลง เก็งกำไร ADVANC PLANB CENTEL (19 ม.ค. 65)

ปรับลง เก็งกำไร ADVANC PLANB CENTEL (19 ม.ค. 65)

คาดดัชนีฯ ปรับลง แนวรับ 1653 / 1641 จุด (EMA 25 / 50 วัน) แนวต้าน 1671 / 1680 จุด แนะนำ เก็งกำไร ADVANC PLANB CENTEL ทางเทคนิคเกิดสัญญาณขาย หลังดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1670 จุด

แนะนำนักลงทุนขายทำกำไร เพื่อรอเข้าซื้อบริเวณแนวรับไฮไลท์วันนี้ คือ รายงานผลประกอบการของบจ.สหรัฐฯ และไทย รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของUK (หากออกมาชะลอตัวลง คาดว่า BoE จะยังไม่ส่งสัญณาณการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติม)

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

       +KTZ Portfolio: Small Cap แนะนำ MC TFG UTP แนะนำขาย AH BGC / Big Cap แนะนำ GULF AWC RBF TCAP JMT ADVANC DTAC COM7 MINT KTB TRUE TTB PLANB แนะนำ ขาย GUNKUL BEC และ SCB แนะนำซื้อ CK และ CENTEL

       +Earnings Play: กลุ่มธนาคารที่คาดว่ารายงานกำไร 4Q21E เติบโตสูง YoY ได้แก่ BBL TTB KTB SCB KKP

       +Dividend Play: คาดให้ยิลด์ปันผลปี 2021E > 5% และมี %Upside ต่อราคา >10%: TPIPP SCCC MC SC LPH BANPU NYT SAT IRPC TASCO ASP ORI NER WHAUP SPCG HTC CHG

       +กลุ่มอิงน้ำมันดิบโลก: รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบโลกเป็นทิศทางขาขึ้นในช่วงต้น 1Q22E: PTTEP PTT TOP

 

ปัจจัยบวก

       +Oil: ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทำระดับสูงสุดรอบ 7 ปี หลังกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ลงมือโจมตีพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำมันดิบของ UAE (+กลุ่มโรงกลั่น)

 

ปัจจัยลบ

        - FED TAPER: ตลาดยังคงวิตกต่อมาตรการคุมเข้มทางการเงินเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นการลดขนาดงบดุลของเฟด ในการประชุมเฟดกลางสัปดาห์หน้า

        - Foreign Investors: วานนี้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก -2,957.10 ล้านบาท (จากวันจันทร์ ขายสุทธิ -1,262.64 ล้านบาท และวันศุกร์ ขายสุทธิ -1,059.58 ล้านบาท)

 

 

 

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญ

        - ไทย/สหรัฐฯ จับตารายงานผลประกอบการ 4Q21 โดยสหรัฐฯ จับตาผลกำไรของ Bank of America, MORGAN STANLEY และ P&G ส่วนไทยจับตางบกลุ่มธนาคารไทย

        - ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. ของ UK โดย Consensus คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 5.1% ในเดือน พ.ย. เป็น 5.2%

       - ตัวเลขการขออนุญาตสร้างบ้านของ USA เดือน ธ.ค. โดย Consensus คาดขยายตัวเล็กน้อยอยู่ที่ 1.72 ล้านหลัง

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดร่วงแรง: ดัชนีฯ เปิดแดนบวก ก่อนยืนในแดนลบตลอดทั้งวันก่อนปิดตลาดที่ 1660.27 จุด -16.60 จุด วอลุ่มซื้อขาย 1.13 แสนล้านบาท นำลบโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -3.46% กลุ่มพาณิชย์ -1.21% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.01% กลุ่มธนาคาร -0.88% หุ้นบวก >4% WIN QTC GUNKUL SYMC PAF U ML NRF AIT PLANB BLA หุ้นลบ>4% TBSP SVI PK INSURE XPG CPW ASIAN SAK
RPC SHANG OCC FSS WP GLOCON

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงแรง DJIA -1.51% S&P500 -1.84% NASDAQ -2.60% เพราะความกังวลว่าเฟดอาจเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด หลังยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 2 ปี และ 10 ปี สูงสุดรอบ 1 ปี และ 2 ปี พุ่งขึ้นแตะ 1.04% และ 1.87% ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี -2.49% และรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของ Goldman Sachs ฉุดหุ้นกลุ่มการเงิน -2.3% ส่วนหุ้นยุโรป CAC40 -0.94% DAX -1.01% FTSE -0.63% ปิดลบจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

 

 

+/- ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่วนทองคำปิดลบ: ราคาน้ำมันดิบพุ่งขั้นสูงสุดรอบ 7 ปี (ตั้งแต่เดือน ต.ค.2014) WTI +USD1.61 ปิดที่ USD85.43/บาร์เรล Brent +USD1.03 ปิดที่ USD87.51/บาร์เรล จากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันขาดแคลน รับข่าว UAE ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มโอเปค ถูกกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนลงมือโจมตีพื้นที่ชั้นใน ใกล้บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี ส่วนราคาทองคำ -USD4.10 ปิดที่ USD1,812.40/ออนซ์ จากแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของ Bond Yield สหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น

 

ประเด็นสำคัญ

- USA: เฟด สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตร่วงลงมาแตะที่-0.7 ในเดือน ม.ค. จากระดับ 31.9 ในเดือน ธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 25.5 อย่างมาก ซึ่งดัชนีที่ปรับตัวลงติดลบ ส่งสัญญาณว่าการเติบโตของภาคการผลิตที่ผ่านมาชะลอตัวลงเล็กน้อย หลังจากขยายตัวต่อเนื่องมานาน 18 เดือน

+ Japan: BOJ วานนี้มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) แต่ปรับมุมมองเงินเฟ้อปี 2022E สูงขึ้นเป็น 1.1% จากเดิม 0.9% ที่คาดไว้เมื่อเดือน ต.ค. 2021 เนื่องจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบปรับสูงขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

 

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SCB JMT DTAC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ADVANC PLANB CENTEL

Derivatives: Wait&see หลังจาก Stop order ไปแล้ว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)