“โนเบิล”มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นผุด18โครงการ4.7หมื่นล้าน

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯปี 65 มีสัญญาณเป็นบวกหลังผ่านจุดต่ำสุดในปี 2564 จากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมจำนองถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

โนเบิลจึงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 18 โครงการ มูลค่า 47,700 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบและคอนโดโลว์ไรส์ 12 โครงการ มูลค่า 18,800 ล้านบาท และคอนโด 6 โครงการ มูลค่า 28,900 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวราบ รวมถึงคอนโดโลไรส์ในพอร์ตมากขึ้นเพื่อขยายพอร์ตให้มีสินค้ารองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงทำให้สามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้น คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนแนวราบในพอร์ต 50%

"การพัฒนาในทำเลที่กระจายตัวมากขึ้นเพื่อครอบคลุมทุกความต้องการ อาทิ ถนนเอกมัยรามอินทรา โซนดอนเมือง ถนนศรีนครินทร์ ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนราษฎร์บูรณะ ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ รวมถึงใจกลางเมืองอย่าง เพลินจิต”

โดยไตรมาสแรกเปิดตัวคอนโด 5 โครงการ มูลค่า15,000 ล้านบาท แบรนด์ นิว (NUE) ระดับราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่ง 3 โครงการแรกเป็นคอนโดติดห้าง ได้แก่ นิว โนเบิล ดิสทริค อาร์ 9 เริ่มต้น 2.9 ล้านบาท นิว โนเบิล เมกา พลัส บางนา เริ่มต้น1.89 ล้านบาท และ นิว โนเบิล ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท ตามด้วย นิว โนเบิล อีโว อารีย์ เริ่มต้น 3.9 ล้านบาท และ นิว โนเบิล คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง เริ่มต้น 1.09 ล้านบาท

ส่วนอีก 13 โครงการทั้งคอนโด แนวราบ บ้านแฝด และทาวน์โฮมจะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ยังมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้อีก 14 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดแนวสูง 4 โครงการ คือ โนเบิล สเตท 39 นิว โนเบิล ศรีนครินทร์-ลาซาล โนเบิล อราวน์ อารีย์ และนิว โนเบิล งามวงศ์วาน ซึ่งจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ครึ่งปีหลังปีนี้ 

โครงการแนวราบและคอนโดโลว์ไรส์ 10 โครงการ คือ โนเบิล เกเบิล วัชรพล นิว โนเบิล คอนเน็กซ์ เฮ้าส์ ดอนเมือง นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา และโครงการใหม่บนถนนเอกมัยรามอินทรา ถนนราชพฤกษ์ ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนจำเนียรเสริม และอำเภอชะอำ ซึ่งจะทยอยสร้างและโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ต้นปี

สำหรับแผนลงทุนต่างประเทศจะต่อยอดจากปี 2564 ท่ี่ซื้ออพาร์ทเมนท์ใจกลางเมืองกว่า 40 ห้อง ที่แมนเชสเตอร์ และลีดส์ ในสหราชอาณาจักร มูลค่ารวม 6.7 ล้านปอนด์  สามารถขายได้มากกว่า 30% อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) 35% ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างรายได้ประจำที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับอัตรากำไรที่ดีจากการขายสินทรัพย์ 

ดังนั้นปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าลงทุนซื้อโครงการสร้างเสร็จแล้ว 550 ห้อง ในแถบมิดแลนด์ และตอนเหนือของอังกฤษ มูลค่า100 ล้านปอนด์

จากแผนงานต่างๆ คาดว่าปีนี้จะทำยอดขาย (pre-sale) ได้ 28,000 ล้านบาท มาจากคอนโด 20,000 ล้านบาท แนวราบ 8,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ลงทุนเอง 15,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 13,000 ล้านบาท