โอสถสภา อ้าแขนรับลูกค้าใหม่ รุกกระจายสินค้า "คารามูโจ้" ชิงเค้กขนมขบเคี้ยว

โอสถสภา อ้าแขนรับลูกค้าใหม่ รุกกระจายสินค้า "คารามูโจ้" ชิงเค้กขนมขบเคี้ยว

โอสถสภา เดินหน้านำศักยภาพความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่องทางขายสินค้า เสริมทัพโคอิเคยะ ช่วยกระจายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ชิงส่วนแบ่งการตลาดขนมขบเคี้ยวในไทยซึ่งมีมูลค่าหลัก "หมื่นล้านบาท"

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)นำศักยภาพความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายเสริมทัพบริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวจากญี่ปุ่น รุกตลาดไทย ช่วยกระจายสินค้าสู่ร้านค้าปลีกดั้งเดิมและแม็คโครกว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ ชิงส่วนแบ่งการตลาดขนมขบเคี้ยวในไทย

นายสรายุทธ จิตจรุงพร รองกรรมการผู้จัดการสายการขาย-ประเทศไทย บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือOSPเปิดเผยว่า บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทยได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวจากประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์คารามูโจ้ และสคอร์น ดูแลการจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม(traditional trade)และแม็คโคร โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา

บริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือโคอิเคยะ ผู้เปิดตลาดขนมมันฝรั่งทอดกรอบในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งหมดสามแบรนด์ ได้แก่ คารามูโจ้ สคอร์น และสตรอง โดยทั้งสามแบรนด์เป็นขนมขบเคี้ยวยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่น ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ปรุงรสด้วยสูตรเฉพาะตัว มีจุดเด่นที่รสชาติเผ็ดและเข้มข้นเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค จนทำให้มีการพัฒนาสินค้ารูปแบบและรสชาติให้เลือกมากมายและเป็นที่นิยมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

 

 “การจับมือกับโคอิเคยะนั้น สอดคล้องกับแผนรุกขยายธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ และนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมาต่อยอดให้แก่ธุรกิจ โดยผลักดันสินค้าของพันธมิตรเข้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคผ่านเครือข่ายร้านค้ากว่า 400,000 จุดทั่วประเทศ ของโอสถสภา รวมถึงหน่วยรถจำหน่ายสินค้า และห้างค้าปลีกท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยวเป็นครั้งแรกของโอสถสภาอีกด้วย”

นายโคมิเนะ สึโยชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าบริษัท มองเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตในประเทศไทยได้อีกมาก และเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายของโอสถสภาซึ่งจะช่วยให้กระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น และช่วยผลักดันให้บริษัท สามารถบรรลุเป้าหมาย ก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทย 

 

ทั้งนี้ ด้วยเครือข่ายร้านค้าที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ ประสบการณ์ และองค์ความรู้จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน ประกอบกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น นั้นเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบของผู้บริโภค ทำให้โอสถสภาและโคอิเคยะ มั่นใจว่าการจับมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายการเติบโต 30%

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์