เกษตรกร-เจ้าของฟาร์ม ’เสียงแตก’ นำเข้าหมู

รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ คนที่ 1 และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ อภิศักดิ์ อังคสิทธิ์ ระบุ ปัจจุบันต้นทุนการเลี้ยงสุกรเพิ่มขึ้นกว่า 90% โอกาสที่ราคาหมูเนื้อแดงจะต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัมเหมือนในอดีตนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว

โดยรวมแล้วหมูทั้งประเทศเสียหายกว่า 50% แม่พันธุ์จาก 1.2 ล้านตัน ลดเหลือ 5 แสนถือเป็นความเสียหายที่รุนแรงมาก ในฐานะเกษตรกรไม่ปิดกั้นที่รัฐบาลจะเปิดนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ แต่ต้องนำเข้าจากสหภาพยุโรปหรืออียูเท่านั้น ห้ามนำเข้าจากสหรัฐโดยเด็ดขาด เพราะสหรัฐยังใช้สารเร่งเนื้อแดงที่อันตรายมาก

ส่วนการนำเข้าต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เช่น กี่เดือน ปริมาณกี่ตัน และใครเป็นผู้นำเข้า เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และสามารถวางแผนเพื่อไม่ให้ปริมาณนำเข้ากระทบกับผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ

ด้านกรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ หมูณัฐ กรุ๊ป และณัฐพงษ์ฟาร์ม จ.หนองบัวลำภู นายแพทย์ภาคภูมิ พีรวรสกุล ระบุ ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาหมูราคาแพงด้วยการนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรรายย่อย คนที่เลี้ยงหมูแล้วไม่เป็นโรค แทนที่จะลืมตาอ้าปากได้ หรือคนที่เลี้ยงแล้วเสียหายก็ยังพอมีกำลังใจในการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนที่ปลอดภัย แต่ถ้าเจอทั้งโรคระบาด เจอทั้งราคาหมูตกต่ำ จะทำให้วงจรอาชีพเลี้ยงสุกรรายย่อยหายไปจากระบบ

แต่หากรัฐบาลนำเข้าแล้วหักภาษีส่วนต่างมาชดเชยเกษตรกร หรือนำเข้าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนเนื้อหมู และขายในราคาที่เหมาะสม แล้วนำส่วนต่างไปชดเชยเกษตรกรรายย่อยที่เสียหาย จะช่วยให้ประคองธุรกิจได้