บลจ.เอ็มเอฟซี จับ3เทรนด์บริโภคยุคใหม่ ชูผลตอบแทน3-5ปีโตเด่นกว่าหุ้นโลก

บลจ.เอ็มเอฟซี จับ3เทรนด์บริโภคยุคใหม่ ชูผลตอบแทน3-5ปีโตเด่นกว่าหุ้นโลก

บลจ.เอ็มเอฟซี มองตลาดหุ้นโลกเคลื่อนไหวออไทม์ไฮ "ชู 3 เทรนด์" รับอานิงส์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ เปิดกองทุน “MCONT” ผลตอบแทนเด่นกว่าหุ้นโลก เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 24.5% มากกว่าหุ้นโลกราว 8% ต่อปี เสนอขายครั้งแรก 12-24 ม.ค.นี้ 

นายชาญวุฒิ รุ่งแสงมนูญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ( บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดวิฤติโควิด-19 มาเป็นระลอก เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย พบว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมา แต่การแพร่ระบาดโควิดโอมิครอนรอบนี้จะแตกต่างไป พบว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกยังเคลื่อนไหวในระดับออไทม์ไฮ และกลุ่มหุ้นคุณภาพยังมีการเติบโตได้ดีกว่าหุ้นทั่วโลกในขณะที่ความเสี่ยงน้อยกว่า เนื่องจากตลาดมองข้ามการแพร่ระบาดโอมิครอน แต่ให้น้ำหนักกัับภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นแรงทำให้เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด   

ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนมีมุมมองต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้ค่อนข้างกระจายทั่วถึงกว่าปีก่อน โดยการระบาดโอมิครอนไม่น่าจะทำให้เกิดการล็อกดาวน์เข้มข้น ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกจะกลับเข้าสู่การเติบโตระยะยาวได้เร็วขึ้นและจะเกิดกระแสการบริโภคแห่งอนาคต หรือ Consumer Trend เป็นเทรนด์ที่ควรจับตา 

 โดยนักลงทุนไม่ควรพลาดโอกาสการลงทุน 3 เทรนด์ธุรกิจทั่วโลกที่มีคุณภาพ สร้างผลตอบแทนในระยะยาว ได้แก่ หุ้นเติบโตกลุ่ม Digital Transformation of Consumption , หุ้นวัฏจักร ในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ และหุ้นดีเฟนซีฟ ในกลุ่มเทรนด์รักสุขภาพและความเป็นอยู่มีคุณภาพชีวิตที่ดี

ดังนั้น ล่าสุด จึงได้เปิดตัว "กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล คอนซูเมอร์ เทรนด์" (MCONT)   ผ่าน 3  Consumer Trend  มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท ความเสี่ยงระดับ  6  เสนอขายครั้งแรก (IPO)  12-24 ม.ค.นี้ 

สำหรับ กองทุน MCONT เป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศ ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก คือ Robeco Global Consumer Trends ในชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) I USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV  ที่มีนโยบายการเลือกหุ้น 150 ตัวก่อนจะคัดเข้าพอร์ต 40-60 ตัว 

โดยพอร์ตลงทุนมีการกระจายตัวของหุ้นในหลายกลุ่มทั้งหุ้นเติบโตและหุ้นคุณภาพ  เช่น  NETFLIX ,PAYPAL,Tencent,Louis Vuitton และESTEE LAUDER แม้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้จะค่อนข้างสูงกว่าหุ้นโลก แต่เมื่อตลาดขาขึ้น สามารถทำผลตอบแทนมากกว่า และผลตอบแทนปรับตัวลงน้อยกว่าเมื่อตลาดขาลง มีความผันผวนน้อยกว่า มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย ย้อนหลัง 3 ปี  24.5% ย้อนหลัง 5 ปี 22.8% หรือผลตอบแทนมากกว่าค่าเฉลี่ยผลตอบแทนตลาดดหุ้นโลก ราว 8% ต่อปี