บอร์ดอีอีซี ลุยโครงสร้างพื้นฐานระยะ 2 ลงทุน 3.4 แสนล้าน จัดเอเปคหนุนลงทุน

บอร์ดอีอีซี ลุยโครงสร้างพื้นฐานระยะ 2 ลงทุน 3.4 แสนล้าน จัดเอเปคหนุนลงทุน

บอร์ดอีอีซี เดินหน้าแผนโครงสร้างพื้นฐานระยะ 2 ปี 2565 - 2569 ใช้งบลงทุน 3.4 แสนล้านบาท ปรับลดจากระยะแรก หวังใช้เวทีเจ้าภาพงานเอเปคดึงลงทุนอีอีซี เผยโอมิครอนไม่กระทบการดำเนินงาน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 1/2565 วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ กพอ. เป็นประธาน มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

แผนโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 2 ปี 2565-2569 งบประมาณ 3.4 แสนล้านบาท จะใช้เงินลงทุนน้อยลงจากแผนระยะที่ 1 โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุน 50% มีกรอบการพัฒนา ดังนี้

1. เน้นการใช้ระบบรางและทางน้ำเป็นระบบหลัก ลดการใช้รถขนส่ง เชื่อมโยงระบบรางให้เข้าถึงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือ 

2. ส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ อาทิ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมเมือง รถเมล์ รถรางเบา 

3. เชื่อมต่อโครงข่ายถนน ลดปัญหาการจราจร แก้ปัญหาคอขวด

4. พัฒนาโครงข่ายเชื่อมต่อพื้นที่เศรษฐกิจใหม่รองรับการเติบโตในอนาคต เช่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

5. ใช้เทคโนโลยีและระบบอัจฉริยะจัดการการจราจรและการขนส่ง 

 

นอกจากนี้ รายงานที่ประชุมรับทราบ การดำเนิงานอีอีซี 4 ปี ดึงเงินลงทุนแล้ว 1.7 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุน การลงทุนภาคเอกชน 80% และภาครัฐ 20% เกิดจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 654,921 ล้านบาท ลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายประมาณ 924,734 ล้านบาท และบูรณาการเชิงพื้นที่ประมาณ 82,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เปิดศักราชใหม่ปี 2565 อีอีซี เร่งสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ขับเคลื่อนแผนลงทุนระยะ 2 อีอีซี (ปี 2565-2569) ตั้งเป้าเกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท จากการต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน 2 แสนล้านบาท

ดึงดูดการลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ต่อยอดจากฐานปกติ New S-Curve ได้แก่ หุ่นยนต์และออโตเมชั่นในโรงงาน พัฒนาอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ เชื่องโยงภูมิภาค จากเศรษฐกิจชีวภาพสู่ สู่เศรษฐกิจ BCG อุตสาหกรรมดิจทัลต่อยอด 5G และ Data Business ตั้งเป้าเกิดเงินลงทุนปีละ 4 แสนล้านบาท รวมการลงทุนในประเทศได้ 6 แสนล้านบาท สร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงจากฐานราก ให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ภายในปี 2572

รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ GDP ประเทศเติบโตขึ้น 5% ต่อปี มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการของไทยมีมูลค่าสูงขึ้นต่อเนื่อง

"สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดโอมิครอนยังไม่ส่งผลกระทบกับอีอีซี รอการประเมินที่ชัดเจนเรื่องการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิต โดยหลังจากนี้จะดูแลให้เกิดการก่อสร้างจริง และเร่งให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง"

ด้านการพัฒนาโครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมภูมิภาค คืบหน้าก่อสร้างอาคารเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างการตกแต่งและปรับภูมิทัศน์ พร้อมเปิดเดือน มิ.ย. 2565 และเปิดอย่างเป็นทางการต้อนรับจัดงานเอเปค เดือน พ.ย. 2565