เคสโควิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (7 ม.ค. 65)

เคสโควิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (7 ม.ค. 65)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงถึงประมาณ -24 ดัชนีปิดที่จุดต่ำสุดของวัน ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ จากความกังวลเฟด ในการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์เดิม

รวมไปถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่เร่งตัวขึ้น กลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลงกดดันดัชนี ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,653.03 จุด -23.76 จุด -1.42% มูลค่าการซื้อขาย 106,478 ลบ. ต่างชาติ -2,723.31 ลบ. TFEX -41,880 สัญญา ตราสารหนี้ +1,028.06 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ +2.1% ปิดที่ 79.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยได้ปัจจัยหนุนจากปัญหาความไม่สงบในคาซัคสถานซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มโอเปคพลัส และรายงานการผลิตน้ำมันที่ลดลงในประเทศลิเบีย
+ สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.5% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.2% ในเดือนต.ค.
+ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลใช้บังคับ 1 ม.ค.2565 ส่งผลให้ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกได้รับประโยชน์ช่วยลดต้นทุนการผลิตและโอกาสส่งออกสินค้าและบริการรวมทั้งดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ เพิ่มการจ้างงาน
+ FETCO ชี้ตลาดหุ้นไทยปีนี้เด่น ดึงดูดต่างชาติเข้าซื้อ เหตุเงินเฟ้อต่ำ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย

 

ปัจจัยลบ  

- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,526 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย รักษาหาย 2,895 ราย
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 170.64 จุด -0.47% กังวลว่าเฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องพึ่งพาผลกำไรจากอัตราดอกเบี้ย
- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าพุ่งขึ้น 19.4% สู่ระดับ 8.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.71 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.72 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
 

- สนามบินนานาชาติซีอาน ประกาศระงับเที่ยวบินทั้งหมดจากต่างประเทศตั้งแต่ 5 ม.ค.จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และระงับทุกเที่ยวบินภายในประเทศด้วย
- WHO กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำในการกระจายวัคซีนไปทั่วโลกเป็นสาเหตุทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น โอมิครอนบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- ประธานหอการค้าไทยย้ำรัฐห้ามล็อกดาวน์ประเทศ หวั่นเศรษฐกิจพังครืนทั้งระบบ แนะต้องอยู่กับ "โอมิครอน" ให้ได้
- กรมสรรพากรลุยศึกษารีดภาษีขายหุ้น เคาะอัตรา 0.1% ล้านละพัน จ่อชงคลังพิจารณาเร็วๆ นี้ มั่นใจไม่กระทบตลาดหุ้นไทย เหตุหลังโควิดบุก 2 ปี ดัชนียังพุ่ง ด้าน FETCO ชี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสม หวั่นกระทบวอลุ่มตลาดหาย 20-30%

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยถูกกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น โดย สธ. ได้ประกาศยกระดับมาตรการเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,640-1,660 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• ได้ประโยชน์จากโครงการ 'ช้อปดีมีคืน’ : COM7 SYNEX CPW SPVI SVOA JMART IT
• หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ERW CENTEL AWC หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK
• ราคาหมู-ไก่ ปรับตัวสูงขึ้น CPF TFG GFPT
• น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง PTTEP PTTGC IVL
• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM

 

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                TNH “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 39.80 บาท
                                          ก่าไร 1Q65 ท่านิวไฮหนุนปรับประมาณการเพิ่ม

•งวด 1Q65 สิ้นสุด 31 ต.ค. 64 มีกำไร 141 ล้านบาท +19%QoQ +101%YoY สูงสุดรายไตรมาสนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น

•ฝ่ายวิจัยปรับประมาณกำไรปี 65 สิ้นสุด 31 ก.ค. 65 เพิ่มขึ้น 12% จากเดิมเป็น 357 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 22%YoY โดยคาดผลการดำเนินงานมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron และในช่วง 2H65 จะมีสัดส่วนรายได้จากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพองค์รวม (Thainakarin Wellness Center) และคาดว่าศูนย์รังสีรักษาจะแล้วเสร็จและเริ่มบริการได้ราว 4Q65 ซึ่งฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มธุรกิจในการสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ และเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนซึ่งทำให้ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีภาระในการกู้เงิน

 

หุ้นมีข่าว

(+) EP (Bloomberg Consensus - บาท) จ่อรับรู้รายได้ขายไฟ 160 เมกะวัตต์ ในไตรมาสแรกปี 2565 พร้อมเจรจาพันธมิตรลุย LNG to Power ในเวียดนาม 1,500 เมกะวัตต์ หวังชัดเจนปีนี้แถมสนใจเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ อีกด้วย เล็งศึกษาธุรกิจชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) บนหลังคา ร่วมกับการใช้งานแบตเตอรี สำหรับลูกค้านิคมอุตสาหกรรม หนุนโอกาสสร้างรายได้ประจำเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TM (Bloomberg Consensus - บาท) ชุดตรวจ ATK ขายดี โอมิครอนหนุนความต้องการใช้พุ่ง ลุยเจาะฐานโรงพยาบาล คลินิก ด้านแม่ทัพหญิง "สุนทรี จรรโลงบุตร" ลั่นอุปกรณ์ผ่าตัดถึงรอบกลับมาขายดี ใส่เกียร์ปล่อยสินค้า OEM ลงตลาด ดันสัดส่วนชน 10% แตะ 50 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ITEL (Bloomberg Consensus 5.75 บาท) ลุ้นปี 64 ทำกำไรนิวไฮ ปักธงรายได้ปี 65 พุ่ง 3,200 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 3,300 ล้านบาท เล็งเซ็นงานใหม่กว่า 2,000 ล้านบาท ล่าสุดคว้างานติดตั้งโครงข่ายค่ายมือถือรายใหญ่ 106 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) CCP (Bloomberg Consensus - บาท) ปักหมุดปี 65 รายได้โตกว่าปี 64 คาดมีงานภาคเอกชนและภาครัฐทยอยมากขึ้น ตามการลงทุนในโซน EEC โชว์แบ็กล็อกแน่น 1,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 60% พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ มูลค่ากว่า 2,000-3,000 ล้านบาท คาดหวังได้งาน 50% ของมูลค่าที่ประมูล นอกจากนี้เตรียมออกสินค้าใหม่อีกหลายรายการ (ที่มา ข่าวหุ้น)