กนอ.เร่งศึกษาลู่ทางธุรกิจใหม่ เผย 8 ธุรกิจน่าลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

กนอ.เร่งศึกษาลู่ทางธุรกิจใหม่ เผย 8 ธุรกิจน่าลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ระดมความเห็นหน่วยงานรัฐและเอกชน หาลู่ทางลงทุนธุรกิจใหม่ และต่อยอดธุรกิจเดิม พร้อมทั้งหาช่องทางการตลาด และการบริหารจัดการความเสี่ยงโครงการลงทุน เผย 8 ประเภทธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ หัวข้อ “โครงการศึกษารูปแบบการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ กนอ.และรูปแบบการลงทุนใประเทศและต่างประเทศ” ว่า จากบริบทและการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ กนอ.จำเป็นต้องปรับบทบาทและภารกิจหลักในการจัดหาที่ดินและพัฒนาเพื่อจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม และจัดให้มีบริการระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการประกอบกิจการของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ

อีกทั้งพระราชบัญญัติ กนอ.(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 ได้เพิ่มบทบาทหน้าที่ในการร่วมดำเนินงาน หรือร่วมกิจการกับบุคคลอื่นเพื่อดำเนินการ รวมถึงเข้าเป็นหุ้นส่วนจำพวก จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือถือหุ้นในนิติบุคคลใดๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หรือการดำเนินการที่เป็นประโยชน์หรือเกี่ยวเนื่องกับกิจการอันอยู่ในวัตถุประสงค์ของ กนอ.ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้การขยายขอบเขตการให้บริการของ กนอ.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ การรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อศึกษาะความเป็นไปได้ของธุรกิจที่สามารถขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมี 8 ประเภทธุรกิจที่สามารถขยายการลงทุนต่อยอดจากธุรกิจเดิมและการทำธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรม (Industrial Estate & Industrial Port) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานทดแทน (Renewable Energy) การจัดการกากอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมสีเขียว (Waste & Green Management) ผู้จัดหาและให้บริการโซลูชั่นในเมือง (Urban Solution Provider)

การพัฒนาทักษะแรงงานแห่งอนาคต (Future Skill) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ (Healthcare & Wellness) การบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Estate Management) และการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Facilities Management)

“กนอ. โดยมุ่งหาแนวทางและรูปแบบใหม่ในการดำเนินธุรกิจให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์เศรษฐกิจโลก และความท้าทายของโลกยุค Next Normal ที่มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตวิถีใหม่ในอนาคต ในการเผชิญกับโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบในทุกมิติ ทั้งวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความท้าทายต่างๆ ที่เกิดกับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายวีริศ กล่าว