Investment Strategy เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะส่งผลดีต่อหุ้น

Investment Strategy เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะส่งผลดีต่อหุ้น

เราเชื่อว่ากราฟผลตอบแทนพันธบัตรแบนราบในตลาดประเทศหลักเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวหากมองจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและภาพเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว (10 ปี) อยู่ในระดับที่ต่ำไป

จึงทำให้ผลตอบแทนอาจพลิกกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อความกังวลต่อการระบาดผ่อนคลายลง เรามองว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นพร้อมกับเส้นผลตอบแทนที่กลับมาชันขึ้นจนถึงช่วงที่แรงกดดันเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อรุนแรงขึน

 

ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีอยู่ในระดับที่ต่ำไป …

ในช่วงที่เขียนบทวิเคราะห์นี้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (UST10Y) อยู่ในช่วง 1.4% ซึ่งต่ำไปเมื่อมองจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง (figure 1) หากอ้างอิงระดับ ISM ในปัจจุบัน UST10Y ควรอยู่ในระดับ 2.5% หรือสูงกว่า และยังไม่รวมปัจจัยที่ US Fed ส่งสัญญาณปรับมาตรการการเงินรุนแรงขึ้นจากการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด นอกจากการเร่งการลด QE (จบ QE ภายในกลางมี.ค.) ตอนนี้ Fed คาดว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 2-3 ครั้งใน 2022 ขึ้นอยู่กับพลวัตเงินเฟ้อ เรามองว่ากระแสเงินที่เข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยเป็นปัจจัยหลักหนึ่งที่ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำในตอนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรับรู้ผลกระทบจาก Omicron อย่างต่อเนื่อง 

Investment Strategy เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะส่งผลดีต่อหุ้น

 

 

 

…ซึ่งหมายถึงผลตอบแทนอาจพลิกกลับเป็นขาขึ้นได้ทุกเมื่อ

จากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ต่ำกว่าที่ควร การกลับเป็นขาขึ้นสามารถเกิดได้ทุกเมื่อในอนาคตอันใกล้ พัฒนาการของการระบาดและข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ Omicron จะเป็นปัจจัยหลักที่อาจทำให้เกิดการกลับตัว สำหรับตลาดหุ้น เราพบว่า correlation ระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรและผลตอบแทนตลาดหุ้นเป็นบวกในช่วง 10 หลังสุด ยกเว้นในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองสำหรับตลาดหุ้นไทย สะท้อนว่าการพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะเป็นบวกต่อราคาหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน, อุตสาหกรรมและกลุ่มวัตถุดิบ

 

มุมมองนี้สามารถใช้กับตลาดไทยได้เช่นกัน

เรามีมุมมองเชิงบวกมากกว่าต่อเศรษฐกิจไทยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องทั่วโลกจะเป็นปัจจัยหนุนหลักการเติบโตของส่งออกไทย ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหลักการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนให้เร็วขึ้นผ่านทางอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 64.3%) ปัจจัยทั้งหมดนี้จะหนุนแนวโน้มในภาพรวม (public sentiment) ไปพร้อมกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นและความตั้งใจที่จะใช้จ่าย พัฒนาการทั้งหมดนี้สะท้อนว่ายังมีอัพไซด์สำหรับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย และเราเชื่อว่าในช่วงต้นของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้นมีแนวโน้มจะมีผลตอบแทนเป็นบวก (Table 1 - correlation ระหว่างหุ้นและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นบวก) อย่างไรก็ตามค่า correlations มีความแตกต่างในรายกลุ่มอย่างที่แสดงในตารางที่แนบมา

 

 

 

Investment Strategy เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะส่งผลดีต่อหุ้น