ส่องกลยุทธ์ค้าปลีกไทย ผ่านมุมมองเจ้าพ่อคาราบาว "เสถียร เศรษฐสิทธิ์"

ส่องกลยุทธ์ค้าปลีกไทย ผ่านมุมมองเจ้าพ่อคาราบาว "เสถียร เศรษฐสิทธิ์"

อำนาจการค้าขาย ใครมีหน้าร้าน หรือช่องทางค้าปลีก ถือเป็นแต้มต่อสำคัญที่จะทำให้สินค้าไปถึงมือผู้บริโภคปลายทาง และนั่นทำให้ "เสถียร เศรษฐสิทธิ์" ที่นอกจากหาญกล้าท้าชิงยักษ์ใหญ่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ยังย้ายสนามรบสู้ศึกค้าปลีก เบ่งอาณาจักรสร้างการเติบโตครั้งสำคัญ

กลับมาอีกครั้งกับหลักสูตรสุดเข้มข้นสำหรับผู้บริหาร “Digital Transformation for CEO#3” ซึ่งหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ และบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ได้จัดขึ้น โดยแต่ละครั้งจะมีวิทยากรจากองค์กรธุรกิจ หน่วยงานชั้นนำมาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนธุรกิจ การทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล

ทั้งนี้ วันที่ 17 ที่ผ่านมา 2 ผู้นำระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง “กรณ์ จาติกรวณิช” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานสมาคมฟินเทคประเทศไทย มาบรรยายในหัวข้อ Dare To DO : How to win with transformations?

นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ที่มาฉายภาพธุรกิจค้าปลีกผ่านหัวข้อ “ส่องกลยุทธ์ค้าปลีกไทย ภายใต้แรงกดดันที่ไม่เหมือนเดิม”

“เสถียร” ออกตัวว่าไม่ค่อยตกลงรับเทียบเชิญเป็นวิทยากร หรือขึ้นเวทีสัมมนาสาธารณะต่างๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจที่ทำให้รับรู้มากนัก เนื่องจากไม่ถนัด แต่กับหลักสูตร “Digital Transformation for CEO#3” ทั้งได้รับเชิญให้มาร่ำเรียนด้วย แต่เล่าติดตลก “ผมแก่แล้ว รุ่นหน้าจะส่งลูกชายมาเรียนด้วย” ส่วนจะเป็น "วีรธรรรม เศรษฐสิทธิ์" ลูกชายคนโต หรือ "ร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์" ลูกชายคนรองคงต้องติดตาม

จากร่วมกับสหาย มาสู่หุ้นส่วนธุรกิจปลุกปั้นเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวกรุ๊ป” จนเติบใหญ่ใกล้ครบ 20 ปี อีกหนึ่งธุรกิจที่ “เสถียร” ให้ความสำคัญมากคือการพยายามเรียนรู้และสร้างโมเดลธุรกิจ “ค้าปลีก” หนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของการเบ่งอาณาจักรการค้าขายให้เติบโต

การซื้อกิจกร “ซีเจ เอ็กซ์เพรส” เมื่อ 8 ปีก่อน เป็นใบเบิก “ทางลัด” ให้เข้าสู่สังเวียนค้าปลีกที่มีมูลค่า “ล้านล้านบาท” และเป็นความอาจหาญในการต่อกร “ยักษ์ใหญ่” ซึ่งสังเวียนดังกล่าวมีเจ้าสัว มหาเศรษฐีตระกูลดังครอบครองตลาดอย่างเหนียวแน่น

ทว่า ค้าปลีก เป็นหัวใจของการค้าขาย เป็นจุดหมายสุดท้าย(Destination)ที่สินค้าจะไปถึงมือผู้บริโภค ทำให้ “เสถียร” มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ยังไงต้องวางรากฐานค้าปลีกให้แข็งแกร่ง

จากแบรนด์ซีเจ และโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นจุดเริ่มต้น แต่แค่นั้นไม่เพียงพอต่อความปลอดภัยหรือ Secure สำหรับการแข่งขันค้าปลีกในอนาคตค้า จึงต้องลองผิดลองถูกสร้างโมเดลใหม่ๆ ซึ่งล่าสุด “ซีเจ มอร์” เป็นคำตอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยร้านจะมีหลายแบรนด์ มีพื้นที่ มีบริการหลากหลายอยู่ในมอลล์ขนาดย่อม

แค่นั้นไม่พอ “เสถียร” ยังลุยต่อ นำประสบการณ์จากการทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเกือบ 20 ปี และองค์ความรู้จาก “ซีเจ” ไปสร้างโมเดลใหม่ “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ที่แปลงโชห่วยให้เป็นร้านโชสวยอย่างแท้จริง เป็นร้านค้าในชุมชน ที่จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน และราคาถูก ซึ่งปัจจุบันมี 2,200 สาขาแล้ว แต่หมุดหมายใหญ่ คือการมุ่งจับมือร้านค้าท้องถิ่นมาเป็นพันธมิตร เพื่อทยานสู่ 20,000 สาขา ภายในปีหน้า และแตะ 50,000 สาขา ในลำดับต่อไป

การมีหน้าร้านค้าปลีกขายสินค้า เป็นกาารเสริมกระดูกเหล็กให้ธุรกิจ แต่การบรรยายในหลักสูตร “เสถียร” แสดงออกถึงความภาคภูมใจกับสิ่งที่ทำไม่น้อย โดยเฉพาะการได้ฟังเถ้าแก่เล็กๆ เจ้าของธุรกิจที่สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น มียอดขายทะลุหลัก “แสนบาท” ไปจนถึง “หลักล้านบาท” ต่อเดือน เพราะนั่นจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนทำมาค้าขายดีขึ้น

ตัวอย่าง “เจ้าของ” หรือหุ้นส่วนร้านถูกดี มีมาตรฐาน จะเล่าพร้อมรอยยิ้มกว้าง ถึงการปรับตัวจากร้านโชห่วยเดิมๆ ไปสู่รูปแบบใหม่ การจัดร้านที่ดีขึ้น การขายสินค้าที่ตอบสนองและเป็นที่ต้องการของลูกค้า ทำให้ขายสินค้าออกเร็ว การไม่ต้องปิดร้านเป็นวัน สูญเสียรายได้ก้อนหนึ่ง เพราะต้องออกไปซื้อสินค้าล็อตใหญ่ แต่มีบริษัทป้อนสินค้าถึงหน้าร้าน ออกแรงยกนิดหน่อย ก็ทำมาหากินต่อได้ ทำให้ความสุขจึงปรากฎบนใบหน้าของผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านั้น

สำหรับเป้าหมายการเบ่งอาณาจักรค้าปลีกของ “เสถียร” ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คิดการใหญ่อย่างไร ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ และแผนงานที่วางไว้ ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะเห็นอีกก้าวสำคัญเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ต้องติดตาม!!