ต้านสำคัญ 1,650 (วันที่ 17 ธันวาคม 2564)

ต้านสำคัญ 1,650 (วันที่ 17 ธันวาคม 2564)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มีแรงซื้อเร่งตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด เป็นแรงซื้อในหุ้น Big Cap. อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า และธนาคาร ที่พักตัวรอผลการประชุม FED ซึ่งผลการประชุมออกมาตามที่ตลาดคาด

ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล ประกอบกับหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้ประโยชน์หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับตัวขึ้น ในอนาคต ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,645.32 จุด +21.66 จุด +1.33% มูลค่าการซื้อขาย 89,098 ลบ.ต่างชาติ +4,662.56 ลบ. TFEX +12,427 สัญญา ตราสารหนี้ +5,292.38 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ +2.1% ปิด 72.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด บ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันยังแข็งแกร่ง และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เพิ่มความน่าดึงดูดให้กับสัญญาน้ำมัน
+ ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยด้านสุขภาพแห่งแอฟริการายงานว่าผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และได้รับวัคซีน 2 โดสของไฟเซอร์/ไบออนเทค อาจมีภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งมากขึ้นในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
+ องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) อนุมัติเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในยุโรป
+ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดเศรษฐกิจไทยปี 65 จะขยายตัว 4.2% โดยเชื่อว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายแม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในหลายประเทศเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจไทย
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 3,537ราย ATK 1,080 ราย เสียชีวิต 41 ราย รักษาหาย 5,459 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 29.79 จุด -0.08% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงเกือบ 2.5% จากเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

- รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้งตั้งแต่ 18 ธ.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังประกาศผ่อนคลายเพียงแค่หนึ่งเดือนครึ่ง
- รัฐบาลมาเลเซียประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 รอบใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนรายที่สองในประเทศ
- สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น ในเดือนธ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 56.9 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 57.2 ในเดือนพ.ย.
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) สร้างความประหลาดใจต่อตลาดการเงิน โดยมีมติ 8-1 เสียงประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัว Sideway ออกข้าง หลังปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรง ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน เริ่มมีหลายประเทศเริ่มประกาศใช้มาตรการควบคุมเข้มข้นขึ้น มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,635-1,650 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 : หุ้นเข้า BANPU TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า BLA BPP EPG RCL SIRI STARK TTA หุ้นออก AAV ICHI JAS NRF PRM PSL TKN
• ส่งออกเดือน ต.ค. ขยายตัว AH SAT NER KCE HANA TWPC JUBILE
• หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK
• FTSE Rebalance มีผล 17 ธ.ค. : FTSE All World Index : ไม่มีหุ้นเข้า-ออก ,FTSE All Cap : หุ้นเข้า TIDLOR หุ้นออก ไม่มี ,FTSE Micro Cap : หุ้นเข้า AMR ASW DMT GROREIT INETREIT NSL SNNP หุ้นออก ไม่มี

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                JR (IAA consensus 9.20 บาท)

•9M64 กำไร 179 ล้านบาท %NP 10.83% เนื่องจาก 1) รายได้เพิ่มขึ้น 78%YoY จากการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ในโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู 2) %GP ปรับดีขึ้นสู่ 16.6% จาก 14.7% ใน 9M63 เนื่องงานรับเหมาระบบไฟฟ้าที่มีมาร์จิ้นสูงมีสัดส่วนรายได้สูง ขณะที่ %NP ปรับดีขึ้นสู่ 10.78% จาก 6.84% ในงวด 9M63 ณ สิ้นเดือนก.ย. 64 มี backlog 4,927 ล้านบาท ราว 423 ล้านบาทจะรับรู้ใน 4Q64 และ 2,192 ล้านบาทจะรับรู้ในปี 65

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลประกอบในอนาคตมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งศักยภาพรับงานรับเหมาวางระบบไฟฟ้า งานวางระบสื่อสาร ICT งานรื้อย้ายสายไฟฟ้าลงดิน ราคาหุ้น -10% จากช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาซื้อขายที่ระดับ P/E 27x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 35x

 

หุ้นมีข่าว

(+) PIN (Bloomberg Consensus -- บาท) ลงนามสมาคมการค้าไทยจีนกวางตุ้ง เปิดทางเข้าลงทุนในนิคม แย้มนักลงทุนจีนชื่นชอบเจรจาซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ มองนิคมตั้งอยู่ในทาเลทองอีอีซี ความต้องการสูง เน้น 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เดินหน้าเพิ่มรายได้ประจำควบคู่ ลุยพัฒนาโลจิสติกส์ พาร์ค ศึกษาโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์-แก๊ส โบรกชูกำไรปี 65 สูง เป้า 4.90 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 23.00 บาท) ขยายอีโคซิสเต็มสู่ดิจิทัล ตั้ง 5 บริษัทรับโลกใหม่ ผนึกเดินหน้าขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมเปิดกว้างรับพันธมิตรเพิ่มเติม สตาร์ตกองทุนลุยเทคโนโลยีแห่งอนาคต รวมถึงเมตาเวิร์สด้วย หวังสร้างอีโคซิสเต็มไม่รู้จบ ล่าสุดผนึก "นินจาแวน" ดึงดูดคนใช้บริการ-หนุนรายได้พุ่ง ส่วนปี 2565 วางเป้ารายได้โต 50% จากปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SMPC (Bloomberg Consensus 12.40 บาท) “สหมิตรถังแก๊ส” หรือ SMPC ตั้งเป้ายอดขายถังแก๊สปี 65 โตไม่ต่ำกว่า 15% มาจากยอดคำสั่งซื้อที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดเอเชียที่อั้นช่วงโควิด-19 ล่าสุดคว้างานที่คูเวตเพิ่ม 3.7 แสนใบ ทยอยส่งมอบม.ค.-ก.พ. 65 พร้อมศึกษาดีล M&A โรงงานในต่างประเทศ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MENA (Bloomberg Consensus -- บาท) “ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 5% ชูอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นแรง-ปัญหาขาดแคลนแรงงานคลี่คลาย-ขยายกองรถ 40 คัน มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท รองรับดีมานด์ขนส่งทุกรูปแบบ ส่วนงบไตรมาส 4/64 โดดเด่น หลังมีปริมาณงานสูงขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)