“เครือมากุโระ” ต่อจิ๊กซอว์ร้านอาหาร เข้าตลาดหลัก ติดสปีดรายได้ 1,000 ล.
![“เครือมากุโระ” ต่อจิ๊กซอว์ร้านอาหาร เข้าตลาดหลัก ติดสปีดรายได้ 1,000 ล.](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2021/12/aHFc1BPycMEUCciA9BUJ.webp?x-image-process=style/LG)
“เครือมากุโระ” เนื้อหอมดึงดูดกองทุนระดับภูมิภาค ควัก 300 ล้าน ลงขันธุรกิจ “ปลดล็อก” ขยายร้านอาหารปีหน้า ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี ร้านซูชิ เปิดกว้างซื้อกิจการเสริมแกร่ง ปั้นแบรนด์ใหม่เติมพอร์ตโฟลิโอ พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯปี 2566 ติดสปีดรายได้สู่ 1,000 ล้านบาท
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง กรรมการบริหาร ร้านอาหารญี่ปุ่นมากุโระ และกลุ่มธุรกิจในเครือมากุโระ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลอด 6 ปี ของการดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ “มากุโระ” ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะ 2 ปีแรก ผลตอบรับจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายดีเกินคาด ทำให้บริษัทขยายร้านจาก 2-3 สาขา สู่ 10 สาขาในปัจจุบัน และยังเดินหน้าสร้างแบรนด์ใหม่ทั้งร้านอาหารเกาหลีระดับพรีเมียมแมส “ซัมติง ทูเก็ทเตอร์”(SSAMTHING TOGETHER) และร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นแบบจานด่วน “ไทโกะ”(TAIKO) เติมพอร์ตโฟลิโอมากขึ้น
ทั้งนี้ การเติบโตของบริษัททำให้เตะตานักลงทุนสถาบันชั้นนำจกภูมิภาคเอเชีย ทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อร่วมลงทุนกับบริษัท โดยเงินดังกล่าวจะใช้นำไปขยายธุรกิจภายใน 2 ปี(2565-2566) ได้แก่ การเปิดร้านมากุโระเพิ่ม 2-3 สาขา ร้านซัมติง 3 สาขา ซึ่งสาขาใหม่จะมีขนาดราว 200 ตารางเมตร(ตร.ม.) จากสาขาแรกที่เมกา บางนา ขนาดเกือบ 300 ตร.ม. ส่วนร้านไทโกะซึ่งเป็นคีออสจะเปิดราว 10-20 จุด จากปัจจุบันมี 1 จุด
นอกจากนี้ เงินส่วนหนึ่งจะใช้ขยายครัวกลางเพิ่ม จากปัจจุบันกำลังลงทุนครัวกลางขนาด 800 ตร.ม. ซึ่งรองรับการเติบโตได้ราว 2 ปีเท่านั้น ขณะที่การสร้างครัวกลางใหม่ต้องมีชนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสอดคล้องกับวิสัยทัศน์การขยายธุรกิจร้านอาหารในอนาคตที่จะมีทั้งสร้างแบรนด์ใหม่ ใช้กลยุทธ์การซื้อและควบรวมกิจการ(M&A)ร้านอาหารและไม่ใช่ร้านอาหาร เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทมากขึ้น
สำหรับหมวดร้านอาหารที่น่าสนใจ มีทั้งสตรีทฟู้ด อาหารไทย อย่างหลังบริษัทมีศักยภาพด้านการวิจจัยและพัฒนาเมนูต่างๆ มีองค์ความรู้ ที่พร้อมต่อยอดธุรกิจค่อนข้างมาก
“ปีหน้าคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาของร้านอาหารทั้งหมด โดยเรายังให้ความสำคัญกับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะยังมีการเติบโต และเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์การบริโภคอาหารของคนไทยไปแล้ว ขณะที่ตลาดร้านซูชิมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท ส่วนร้านอาหารเกาหลีช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตร้อนแรงเป็นอัตรา 2 หลัก มูลค่าตลาด 2,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ซัมติง ทูเก็ทเตอร์ มีโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับการวางตำแหน่งทางการตลาดพรีเมียมแมส ราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 50% จึงคาดว่าจะตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างดี”
อย่างไรก็ตาม ตลอด 6 ปี เครือมากุโระ มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2562 สร้างยอดขาราว 500 ล้านบาท แต่ 2 ปีที่เผชิญวิกฤติโควิดได้รับผลกระทบทำให้สิ้นปี 2564 คาดยอดขายอยู่ที่ 400 ล้านบาท แต่ยังมีความสามารถในการทำกำไร ทำให้ปี 2566 บริษัทจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจเพิ่ม และผลักดันรายได้ให้โตเท่าตัวแตะ 1,000 ล้านบาท ในปี 2566 ส่วนปีหน้าคาดยอดขาย 750 ล้านบาท
“อนาคตเราต้องการมีร้านอาหารหลายแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ และต้องการสร้างครัวกลางที่มีทุกแบรนด์เข้ามาอยู่รวมกัน เพื่อต่อยอดสู่บริการเดลิเวอรี ซึ่งปัจจุบันเริ่มทำมากุโระโกตอบโจทย์ผู้บริโภค สร้างการเติบโต ขณะที่เป้าหมายสูงสุดต้องการก้าวเป็นผู้นำร้านอาหารในระดับภูมิภาคอาเซียน มีการเปิดร้านในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา ฯ ที่ตลาดมีศักยภาพ”