คนไทยแห่เที่ยวเหนือ-อีสานรับลมหนาว หยุดยาววันรัฐธรรมนูญสะพัด5.7พันล้าน

คนไทยแห่เที่ยวเหนือ-อีสานรับลมหนาว หยุดยาววันรัฐธรรมนูญสะพัด5.7พันล้าน

ไฮซีซั่นภาคท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปี บรรยากาศในหลายพื้นที่เริ่มคึกคักรับลมหนาว ผนวกกับมาตรการผ่อนคลาย “เปิดประเทศ” และการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ”

ซึ่งเป็น “น้ำบ่อหน้า” ที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต่างมุ่งหมายตักตวง ท่ามกลางการเปิดเมืองที่ยังไม่ 100% เพราะมีไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ “โอมิครอน” มาก่อกวน!

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องใน “วันรัฐธรรมนูญ” ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค.2564 พบว่าบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยเริ่มคึกคัก! เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ในหลายพื้นที่เริ่มหนาวเย็น โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศประมาณ 1.84 ล้านคน-ครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียน 5,720 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 40%

และเมื่อเจาะรายพื้นที่และภูมิภาค พบว่ากรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 10% จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 217,400 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 690 ล้านบาท, ภาคกลาง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 44% จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 458,300 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 1,010 ล้านบาท, ภาคตะวันออก มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 38% จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 362,000 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 1,400 ล้านบาท, ภาคเหนือ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 41% จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 272,500 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 1,310 ล้านบาท

ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 49% จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 447,000 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 860 ล้านบาท และภาคใต้ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 8% จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 83,600 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 450 ล้านบาท

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ หากไม่นับรวมกรุงเทพฯ พบว่าส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ “เมืองหลัก” ได้แก่ ชลบุรี กาญจนบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ระยอง และประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ “เมืองรอง” ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อาทิ อุดรธานี เชียงราย มุกดาหาร นครพนม หนองคาย เลย เนื่องจากมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งอุทยานแห่งชาติ แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม วิถีชุมชนที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Slow Life เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มวัย ทำให้เอื้อต่อการเดินทางเข้าพื้นที่ในขณะนี้ 

และผลจาก Google Trends ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.2564 พบ คำว่า “วันรัฐธรรมนูญ เที่ยวไหนดี” มีปริมาณการค้นหาสูงขึ้น โดย 5 อันดับของคนที่ค้นหาเป็นคนนนทบุรี สมุทรสาคร สระบุรี กรุงเทพฯ และปทุมธานี ซึ่งส่วนใหญ่ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้สัมผัสอากาศหนาวเย็น ชมทะเลหมอก อย่างภูเรือในจังหวัดเลย, อุดรธานี, สวนผึ้งในจังหวัดราชบุรี และภูทับเบิกในจังหวัดเพชรบูรณ์

ส่วนการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ได้สร้างความกังวลต่อคนไทยบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มครอบครัวที่มีลูกเล็ก แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมท่องเที่ยวในประเทศมากเท่ากับการระบาดระลอกก่อนหน้า เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนให้กับคนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และคนไทยมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 อยู่ในระดับที่ดีกว่าเดิม รวมทั้งการตรวจอย่าง RT-PCR ในปัจจุบันยังสามารถใช้ได้ดี ทำให้การเดินทางท่องเที่ยววันหยุดยาวต่อเนื่องวันรัฐธรรมนูญยังคงขยับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) และมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 โครงการทัวร์เที่ยวไทย และโครงการคนละครึ่ง ได้เข้ามาช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในพื้นที่ท่องเที่ยว

รวมทั้งมีโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว และการจัดงานและกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ของ ททท. อาทิ เทศกาลดนตรี Chiang Mai Street Jazz 2021 จ.เชียงใหม่, งาน Show Loei “Blooming Phuruea Camp Calling” จ.เลย, งาน Nasatta Light Festival 2022 จ.ราชบุรี, งาน Pattaya Music Festival จ.ชลบุรี, งาน Granmonte Winter in The Vineyard อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และงาน Flora Park 2021 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ส่งผลให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น

“ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนกว่า 50% รวมทั้งสถานประกอบการต่างๆ อาทิ โรงแรมที่พัก ธุรกิจยานพาหนะ ร้านค้าของที่ระลึก และอื่นๆ ส่วนใหญ่ได้รับ SHA ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันหยุดนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง”