FETCO ลุ้นดัชนีปีหน้าแตะ1,800จุด ชี้ไทยยังเด่นดูดฟันด์โฟลว์เข้าทะลุแสนล.
หุ้นไทย ดีดตัวแรง เพิ่มขึ้น 21 จุด คลายกังวลโอมิครอน สวนดัชนีความเชื่อมั่น ลดลง19.9% บล.ทิสโก้ คาดปรับขึ้นระยะสั้น เหตุยังมีปัจจัยไม่แน่นอนสูงกดดัน "เฟทโก้" ชี้ดัชนีหุ้นไทยปีหน้าแตะ 1,800 จุด หวังฟันด์โฟลว์ไหลเข้าทะลุ“ แสนล้าน” รับอานิสงส์ ท่องเที่ยวฟื้น- กำไรบจ.โต 12%
ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (7 ธ.ค. ) ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงบ่าย เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 23 .39 จุด หรือ 1,66.58 จุด ก่อนย่อมาปิดตลาดที่ 1,609.28จุด เพิ่มขึ้น21.09 จุด มูลค่าซื้อขาย 74,927.55 ล้านบาท
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) 3 เดือนข้างหน้า (ก.พ. 2565) ปรับตัวลดลง 19.9% อยู่ที่ระดับ 135.16 จากสำรวจครั้งก่อนอยู่ที่ 168.69 แต่ยังอยู่่ในเกณฑ์ร้อนแรง
ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นลดลง เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ รองลงมา คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศและ การไหลออกของเงินทุนขณะที่ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่น คือ ควาคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ รองมา แผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ โควิด -19 และ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (7 ธ.ค.64) ที่ปรับตัวขึ้นเป็นการฟื้นตัวสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกโดยนักลงทุนบางส่วนเริ่มคลายกังวลการแพร่ระบาดของโอมิครอน เพราะจากการที่ข้อมูลทางการแพทย์และนักวิชาการหลายรายระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไม่น่ากังวล แม้จะมีอัตราการติดเชื้อเร็วกว่าเดลต้า แต่ยังไม่มีอัตราการเสียชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นในปี 2565 ส่วนตัวคาดดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสขึ้นไปถึงระดับ 1,800 จุดได้ สอดคล้องกับนักวิเคราะห์หลายรายคาดไว้ที่ระดับ 1,750 จุด เชื่อว่า ตลาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากในปีหน้า “ประเทศไทย” ยังมีจุดขายอยู่ ทั้งจากเศรษฐกิจไทยจะเติบโตสูงกว่าศักยภาพได้ คาดจีดีพีขยายตัวที่ 4% จากที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาค
สำหรับเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ในปี2565 มีโอกาสไหลเข้ามาทะลุระดับ 1 แสนล้านบาท เนื่องจากเชื่อว่าประเทศไทยยังมีจุดดึงดูดนักลงทุนต่างชาติจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่า จะฟื้นตัวหลังจากชะลอตัวมาต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (7 ธ.ค.) ปรับขึ้น 21.09 จุด ได้แรงหนุนจากที่นักลงทุนคลายความกังวลสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ภายหลังต่างประเทศรายงานผู้ติดเชื้อมีอาการน้อยมาก นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยหนุนจากที่ประเทศจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ ภายหลังปรับลดอัตรากันสำรอง (RRR)
ทั้งนี้มองว่าเป็นการฟื้นตัวระยะสั้นเท่านั้น และเชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของเดือน ธ.ค.ดัชนียังมีแนวโน้มผันผวน โดยถูกกดดันจากพัฒนาการของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 14-15 ธ.ค. คาดว่าเฟดจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดมากขึ้น
โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจำกัด ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ JWD และ WICE รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ HANA