เจาะ 9 เทรนด์ การตลาดออนไลน์ปี 65 รู้ไว้ไม่ตกขบวน

เจาะ 9 เทรนด์ การตลาดออนไลน์ปี 65 รู้ไว้ไม่ตกขบวน

เข้าโค้งสุดท้ายปี นักการตลาด เอเยนซี ต่างตบเท้าหยิบ “เทรนด์” ที่จะมาแรงในปี 2565 มาบอกเล่าเพื่อให้ผู้ประกอบการ นักสร้างแบรนด์เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะมีผลต่อการกำหนดทิศทางธุรกิจการค้า

ล่าสุด สมาคมโฆษณาฯ จัดงานวันความคิดสร้างสรรค์ “Adman Awards & Symposium 2021” ระดมกูรู คนดังจากหลากวงการ แบ่งปันไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ เทรนด์ที่จะเกิดขึ้น หนึ่งในแนวโน้มที่ต้องรู้ยุคนี้ คือการตลาดออนไลนื ปี 2565 ซึ่ง ผรินทร์ สงฆ์ประชา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นาสเก็ต รีเทล จำกัด และกรรมการสภาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หยิบ 9 เทรนด์ ที่ทรงพลัง เริ่มจาก 1.วิดีโอสั้นจากแพลตฟอร์ TikTok นับตั้งแต่โควิดระบาด TikTok แจ้งเกิดอย่างสวยงาม และ 2 เดือนก่อน ยอดดาวน์โหลดแซงหน้าแพลตฟอร์ใหญ่อย่าง ยูทูป เฟซบุ๊ก

คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน อายุ 18-35 ปี อยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok ถึง 69% เป็นโอกาสที่แบรนด์จะทำตลาดเจาะเป้าหมาย แต่ต้องสร้างคอนเทนท์สนุกสนาน และเป็นวิดีโอสั้น 1-3 นาที “แนวตั้ง” ตอบโจทย์ อนาคต TikTok จะมีไลฟ์ชอปปิงซื้อขายสินค้าได้ด้ว ปีหน้ามาแน่นอน

“การเล่าเรื่องวิดีโอสั้น เป็นทักษะที่แบรนด์ต้องทำ ไม่ใช่ไม่ให้ตกเทรนด์ แต่เพื่อให้อยู่รอด

2.ยิงโฆษณาเฟซบุ๊ก Content is King เมื่อเฟซบุ๊กกลับสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมผู้คนไว้ ทำให้โฆณาที่จะยิงบนแพลตฟอร์มต้องดึงคนดู นอกจากเนื้อหาน่าสนใจ ยังต้องทำออกมาแนวตั้ง เพราะปัจจุบันผู้ใช้งาน 98% ใช้เฟซบุ๊กผ่านมือถือ เสียเงินให้เฟซบุ๊กแพงๆแล้ว การวัดผลความคุ้มค่า(ROAS: Return On Ad Spend)ต้องทำเสมอ

“การยิงโฆษณาให้คนดูต้องมี 3 ส สร้างความสนใจด้วยปัญหาหรือ Pain point ผู้บริโภค เกิดความสงสัย สินค้าต้องตอบคำถามได้หมด และสั่งซื้อ ด้วยโปรโมชั่น สถานที่ซื้อฯ หรือเกิด Call to action นั่นเอง”

3.อินฟลูเอ็นเซอร์ ยังติดลมบน แต่ผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์(Influencer)มีทั้งเมกะอินฟลูเอ็นเซอร์ คนตามมหลักล้าน พาวเวอร์ อินฟลูเอ็นเซอร์ คนตามหลักแสน แมคโคร-ไมโคร และนาโนอินฟลูเอ็นเซอร์ คนตามหลักหมื่น พัน ฯ ซึ่งมีผลที่แบรนด์จะเลือกใช้ บางครั้งคนติดตามมาก แต่ผู้บริโภค “เชื่อใจต่ำ” เพราะรู้ว่าขายสินค้าแน่นอน ดังนั้นการเลือกใช้ต้องผสมสานทั้งตัวแม่และรายเล็ก ใช้สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ถูกตีตราว่า “ถูกจ้าง”

อย่างไรก็ตาม จะใช้คนดังขนาดไหน สิ่งที่แบรนด์ห้ามลืม คือเริ่มที่สร้างการรับรู้(Awareness) ต้องสร้างยอดขาย(Revenue) และโกยฐานลูกค้า(Customer) ให้ได้ด้วย

 4.อินสตาแกรม(IG)แม้จะแผ่ว แต่ยังมีพื้นที่ให้แบรนด์ทำการตลาด แต่ต้องวางบุคลิกภาพ คาแร็กเตอร์แบรนด์ให้เด่นชัดว่าจะเป็นอะไรในสายตาผู้บริโภค ส่วนการจะสื่อสารต้องเน้นจริง จริงใจ คอนเทนท์ดีต่อใจ เพื่อสร้างความผูกพันธ์เติบโตไปพร้อมผู้ติดตาม 5.ทวิตเตอร์ ดินแดนที่หญิง 49% ชาย 51% การทำตลาดเป็นกระแสได้เร็วหากมีประเด็นร้อนแรงหรือแฮชแท็กประจำวัน แต่ต้องระวังว่าแบรนด์จะเข้าไปเอี่ยวเรื่องอ่อนไหว

ปัจจุบันทวิตเตอร์มีผู้ใช้งานไม่มากต่ำกว่า 10 ล้านคน ผู้บริโภคใช้สร้างสรรค์คอนเทนท์ เสพสุขโลกทิพย์หนีจากโลกจริงชั่วคราว คุยเรื่องสิ่งแวดล้อม แฟนคลับ ดินแดนประเทศฉัน เป็นต้น

6.Google SEO เครื่องมือการตลาดที่เก่าสุด แต่มีพลังต่อแบรนด์อย่างมาก หากสินค้าเป็นที่ต้องการค้นหาแก่ผู้บริโภค ต้องใช้เป็นอาวุธเจาะกลุ่มเป้าหมาย โดยคำค้นหาสำคัญสุดหรือ Keyword is King และควรเป็นคำที่ลึกไม่ใช่ประโยคสั้นๆ ที่อาจมีการค้นหามาก แต่เอ็นเกจเมนต์ต่ำ เช่น คอลลาเจน ค้นหามาก แต่ไม่ตอบผลลัพธ์ธุรกิจ หากเทียบ คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2021 คอลลาเจน ประโยชน์ ฯ

“SEO บิ๊กคีย์เวิร์ดใช้เงิน พลังมหาศาล แต่สู้กองทัพคำค้นหาเจาะจงหรือ​​Long Tail Keywords ไม่ได้”

7.ดาต้าขับเคลื่อนธุรกิจ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ข้อมูลเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ตลาดแม่นยำ แต่ปีหน้าการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลกำลังถูกจำกัด นักการตลาดต้องหาโมเดลใหม่เพื่อให้รู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร กลุ่มไหนคือพระเจ้า โดยไม่ต้องรู้ข้อมูลส่วนตัว

8.ไลน์(LINE) น่านน้ำสีครามการตลาด จากไลน์แชทที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน LINE OA แบรนด์สามารถเอ็นเกจกับลูกค้าได้ และยังมี LINE Ads Platform ที่ต้นทุนต่อการเห็น 1,000 ครั้ง อยู่ที่ 30-40 บาท เทียบเฟซบุ๊คอยู่ที่ 300-400 บาท ความต่าง 80 เท่าของต้นทุนทำให้เป็นโอกาสที่แบรนด์ นักการตลาดเข้าไปลอง และ 9.ยูทูป วิดีโอสั้นมาแรง เป็นนาทีทองที่แบรนด์ต้องเข้าไปทำตลาด รวมถึงปีหน้าจะเห็นการขายสินค้าแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง มาอยู่เป็นแพลตฟอร์ม ซึ่งงทั้งหมดแบรนด์ห้ามตกขวบน!