แหล่งเงินเยียวยาสถานบันเทิงใช้เงินกู้ฯ - ประกันสังคม จ่ายลูกจ้าง - นักดนตรี

แหล่งเงินเยียวยาสถานบันเทิงใช้เงินกู้ฯ - ประกันสังคม จ่ายลูกจ้าง - นักดนตรี

ศบศ.รับทราบแนวทางเยียวยาลูกจ้าง ผู้ประกอบการสถานบันเทิง นักดนตรี ให้ประกันสังคมจ่ายเยียวยากรณีฉุกเฉิน บวกเงินช่วยพิเศษจากเงินกู้ฯคนละ 5,000 บาท คาดนักดนตรีที่เข้าข่ายได้รับเงินประมาณ 1แสนราย ใช้เงินประมาณ 500 ล้านบาท เยียวยาในกลุ่มนี้ทั่วประเทศ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลช่วยเหลือสถานบันเทิงและกลุ่มอาชีพที่มีความเกี่ยวข้องทั้งในสถานประกอบการที่ปิดไปเป็นระยะเวลานานซึ่งภาครัฐต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยในขณะนี้มีการเห็นชอบในแนวทางการให้ความช่วยเหลือแล้วแบ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือที่จะใช้เงินจากกองทุนประกันสังคม และใช้เงินจากพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. 2564 (เพิ่มเติม) 

ในส่วนแรกการเยียวยาให้กับผู้ประกอบการสถานบันเทิง ลูกจ้างที่อยู่ในระบบสังคม  ที่เป็นผู้ประกันตนอยู่ในระบบประกันสังคมอยู่แล้ว กลุ่มนี้นอกจากจะได้รับเงินตามสิทธิ์การว่างงานที่ประกันสังคมคุ้มครองแล้ว จะได้เสนอให้บอร์ดประกันสังคมพิจารณาจ่ายเงินฉุกเฉินเพิ่มเติมกรณีว่างงานสุดวิสัย   

ทั้งนี้การช่วยเหลือแบ่งเป็น 

1.กลุ่มนายจ้าง สถานประกอบการที่ส่วนมากอยู่ในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งรัฐบาลให้นโยบายการเยียวยาหัวละ 3,000 บาท ตามจำนวนลูกจ้างต่อเดือน
 

2. กลุ่มลูกจ้าง ที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 ที่อยู่ในธุรกิจ ผับ เธค บาร์ ทั้งเด็กเสริฟ พ่อครัว เสมียนบัญชี การดูแลจะให้สำนักงานประกันสังคมออกประกาศเยียวยา 50% เหตุสุดวิสัย

หากไม่เพียงพอในการใช้จ่ายก็จะขอในส่วนของเงินกู้ส่วนที่ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ดูแลซึ่งตั้งตัวเลขไว้ 5,000 บาท แต่ต้องรอหารืออีกครั้ง

"หากอยู่ในระบบประกันสังคมจะได้ 2 ขา โดยให้ประกันสังคมช่วย 50 เปอร์เซ็นต์ อีกส่วนขอเงินกู้จากรัฐบาล" นายสุชาติ กล่าว 

3. ผู้ที่เป็นศิลปินอิสระที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม แนวทางคือจะต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคมตามมาตรา 40 ซึ่งคาดการณ์ทั้งประเทศจะมีไม่เกิน 1 แสนคน แต่ปัญหาอยู่ที่การรับรอง จึงขอให้สมาคมต่างๆรับรองบุคลากรคน

ทั้งนี้วันนี้จะมีการหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปนำเสนอต่อ สศช..ในการพิจารณาเงินกู้ของกระทรวงการคลัง และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบศ.) อีก

"เบื้องต้นถ้ามีจำนวน 1 แสนคน ให้คนละ 5 พันบาท จะใช้เงินประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคุ้มค่ามากกว่าการที่อนุญาตให้เปิดผับบาร์ในช่วงนี้ เพราะหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาต้องใช้เงินมากกว่า 500 ล้านบาท หรือมากกว่า 1 พันล้านบาท" นายสุชาติ กล่าว