“สทท.” วอนรัฐเร่งเจรจา “อินเดีย” กระตุ้นเที่ยวบินพาณิชย์ปลุกดีมานด์เที่ยว

“สทท.” วอนรัฐเร่งเจรจา “อินเดีย” กระตุ้นเที่ยวบินพาณิชย์ปลุกดีมานด์เที่ยว

“สทท.” วอนรัฐเร่งเจรจาฝั่ง “อินเดีย” กระตุ้นเที่ยวบินพาณิชย์ ปลุกดีมานด์ทัวริสต์แดนภารตะ แนะเร่งกดยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ต่ำกว่า 1,000 คนต่อวันภายในสิ้นปีนี้ เสริมความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติ กล้าตัดสินใจเดินทางเข้าไทยมากขึ้นในปี 65

นางสมทรง สัจจาภิมุข รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และรองประธานหอการค้าอินเดีย-ไทย กล่าวว่า แม้อินเดียจะเป็นหนึ่งใน 63 ประเทศที่รัฐบาลไทยกำหนดให้สามารถเดินทางเข้ามาด้วยรูปแบบ Test & Go และเป็นหนึ่งในตลาดความหวังของภาคท่องเที่ยวไทยหลังประกาศเปิดประเทศ 1 พ.ย.2564 แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมต่างสงสัยว่าทำไมนักท่องเที่ยวอินเดียไม่มาเที่ยวไทยตามคาด โดยปัญหาคือไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ (Commercial Flight) ให้บริการ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของไทย เช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จำเป็นต้องเร่งเจรจากับฝั่งอินเดียเพื่อคลายล็อกเรื่องเที่ยวบินพาณิชย์โดยเร็ว

นายวิชิต ประกอบโกศล รองประธาน สทท. กล่าวเสริมว่า ขณะนี้หลายประเทศกำลังจีบนักท่องเที่ยวอินเดีย จึงต้องการให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผลักดันให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าหาและเจรจาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมาเที่ยวไทย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยอาจจะถูกมองว่าไม่ได้สนใจตลาดอินเดีย

ทั้งนี้นับตั้งแต่รัฐบาลดำเนินนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.2564 พบว่านักท่องเที่ยวจากหลายประเทศสนใจมาเที่ยวไทย แต่ขอเป็นช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากปัจจุบันบางประเทศต้นทาง เช่น ตลาดหลักอย่างจีน มีนโยบายให้กักตัวเมื่อกลับจากไทย หากประเทศต้นทางต่างๆ ปลดล็อกการท่องเที่ยวนอกประเทศเมื่อไร มีโอกาสสูงที่คนจะทะลักเข้าไทย

สำหรับอีกข้อจำกัดที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติคือยอดผู้ติดเชื้อใหม่ แม้ปัจจุบันไทยจะมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงอยู่ที่ระดับ 4,000 คนต่อวันแล้ว แต่ถ้ากดยอดผู้ติดเชื้อได้ต่อเนื่อง ลดต่ำกว่า 1,000 คนต่อวันภายในสิ้นปี 2564 จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ กล้าตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้นในปีหน้า

อย่างไรก็ตามเป็นห่วงเรื่องแรงงานต่างด้าวที่เดินทางเข้าไทยตามด่านพรมแดนด้วย แม้จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แต่ก็เป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังให้ดี และเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง

ด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม “โรบินฮู้ด” กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2565 หากได้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 10 ล้านคน ก็นับว่าเก่งแล้ว เพราะยังขาดตลาดหลักอย่างประเทศจีน ทำให้ต้องพึ่งพิงรายได้การท่องเที่ยวจากตลาดในประเทศต่อเนื่อง และควรเร่งสร้างสมดุลรายได้ระหว่างตลาดในและต่างประเทศในระยะยาว

“สำหรับตลาดต่างประเทศ ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกยังไม่ได้เปิดประเทศ 100% นอกเหนือจากการส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางในใจ (Top of Mind) ของนักท่องเที่ยวแล้ว ต้องนำเสนอเพิ่มว่าระหว่างที่เผชิญการระบาดของโควิด-19 ประเทศไทยได้พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวก รอการกลับมาของนักท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง ควบคู่กับการออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างความประทับใจ รวมถึงการชูจุดขายใหม่ๆ ว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับเที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย สอดรับกับเทรนด์ Work From Anywhere”