ผ่า ‘ทีอาร์วี’เงินไอพีโอเร่งลงทุน เกาะเทรนด์รถยนต์-เครื่องไฟฟ้า

ผ่า ‘ทีอาร์วี’เงินไอพีโอเร่งลงทุน เกาะเทรนด์รถยนต์-เครื่องไฟฟ้า

“ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูป”จิ๊กซอว์สำคัญ “อุตสาหกรรมรถยนต์-เครื่องใช้ไฟฟ้า”ส่งผลบวกต่อน้องใหม่ไอพีโอ บมจ. ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ หรือ TRV ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจำแนกตามกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม

กำลังจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยการนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 54.56 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.30 บาท มีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้นซึ่งเข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) วันนี้ (2 ธ.ค.2564) 

ปัจจุบัน TRV มีธุรกิจแบ่งออกเป็น “ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 52.45%    อาทิ ท่อยางกันกระแทก ยางร้อยสายไฟในรถยนต์ ปะเก็นยาง ยางโอริง ลูกยาง ซีลยาง ยางแป้นเบรก ยางกันลื่นเป็นต้น“ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในเครื่องใช้ไฟฟ้า” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 46.53% อาทิ ชิ้นส่วนยางในหม้อหุงข้าว ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็น เครื่องกรองอากาศ และ“ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปอื่นๆ” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 0.85% อาทิ ชิ้นส่วนยางในเครื่องจักรการเกษตร ท่อประปา เป็นต้น

“ธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRV  ให้สัมภาษณ์พิเศษ “หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สำหรับการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้ เพื่อต้องการปลดล็อกการเติบโต สะท้อนผ่านเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 125.50  ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องจักรจำนวน 85 ล้านบาท

โดยเป็นการทยอยซื้อเครื่องจักรทั้งหมด 15 เครื่อง และตามแผนจะซื้อครบทั้งหมดภายในปี 2568 ซึ่งจะสนับสนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านชิ้น จากกำลังการผลิตสิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 จำนวน 98.78  ล้านชิ้นต่อปี (หากคิดจำนวนเต็มปี) คาดกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็นประมาณ 192.78 ล้านชิ้นต่อปีในปี2568 รวมทั้งเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน จำนวน 10 ล้านบาท ภายในปี 2566 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22.83 ล้านบาท ภายในปี 2566

สำหรับ “จุดแข็ง” คือ ความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจในการผลิตและส่งมอบสินค้า ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น เป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท

“กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปนั้นนับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากและมีความต้องการในตลาดสูงและเป็นสินค้าที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการผลิตอีกด้วย”

โดยบริษัทมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญในทุกกระบวนการผลิต และส่งมอบสินค้าได้ตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานของบริษัทอีกทั้งสามารถเพิ่มหรือขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตและขยายตัวทางธุรกิจของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่าแม้ว่าตลอดปีที่ผ่านมาบริษัทอาจได้รับผลกระทบบ้างจากการชะลอตัวการผลิตรถยนต์ในประเทศจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จากช่วงที่ผ่านมาบริษัทกระจายพอร์ตเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการยังรักษาความสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี

ขณะที่แนวโน้มของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจนอีกครั้งแล้ว  โดยเฉพาะปี 2565 น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญสนับสนุนภาพรวมรายได้และศักยภาพทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เขา บอกต่อว่า “ความแตกต่าง”ของผลิตภัณฑ์บริษัท นั่นคือ“ความโดดเด่น”ด้านคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากลทั้งญี่ปุ่นและยุโรป ทำให้ผลประกอบการบริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการทำกำไรทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี ส่วนประเด็นการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มองว่าสินค้าของ TRV ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสินค้าของบริษัทที่เป็นชิ้นส่วนยางขึ้นรูปน่าจะได้รับประโยชน์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนประกอบในรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

สำหรับผลประกอบการของ TRV ช่วง 3ปีย้อนหลัง (2561-2563) พบว่า มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.56 ล้านบาท 25.27 ล้านบาท และ 21.20 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 146.40 ล้านบาท 167.98 ล้านบาท และ 159.41 ล้านบาท ตามลำดับ

ท้ายสุด “ธีรวุฒิ” บอกไว้ว่า ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายรายโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปนั้นนับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากและมีความต้องการในตลาดสูง