JTS แพงได้อีก | ออฟเรคคอร์ด

JTS  แพงได้อีก  | ออฟเรคคอร์ด

หุ้นแพงอย่าง JTS สร้างราคานิวไฮใหม่ได้อีกครั้งหลังราคาขึ้นไป 90 บาท พร้อมกับการเตรียมรับเงินจากกลุ่มเดียวกัน !!

๐๐๐ JTS  แพงได้อีก 

จังหวะดีและตามกระแสดิจิทัลต่อเนื่องหุ้นสุดเซอร์ไพรส์นักลงทุน JTS   เปิดตัวธุรกิจใหม่ลงทุนในคริปโทเคอเรนซี  บิทคอยน์ 

และยังไปไกลถึงขนาดลงทุนเตรียมเครื่องมือไว้ทำ เหมืองขุดบิทคอยน์ ทั้งหมดยังเป็นแค่โครงการยังไม่ได้เห็นกำไรจริง 

ราคาหุ้นคงไม่ต้องพูดถึงเพราะช่วงกลางปีราคาจาก 10 บาท ขึ้นไปถึง 60 บาท  พร้อมกับขึ้นแท่น หุ้นสุดแพงระยับ ด้วย P/E เฉียด 900 เท่า  

ล่าสุดราคาหุ้นกลับมาทำ นิวไฮ อีกครั้งพร้อมแรงซื้อหนาแน่นจนไปทำราคาสูงสุดที่  91 บาท   คราวนี้มาพร้อมกับข่าวเดิมแต่เพิ่มเติมสร้างรายได้ใหม่ด้วยการรับเช่าพื้นที่  56 ล้านบาท 3ปี จาก “พินเวสเมนท์”

จากชื่อน่าจะถึงบางอ้อ!! เพราะไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น คนกันเอง แบบก๋ากี่นั้ง “พิชญ์ โพธารามิก” ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 100 % 

ก่อนหน้านี้บริษัทนี้เคยเข้าไปรับซื้อลิขสิทธิ์เพลง MV ผ่านยูทูปจาก MONO มาแล้ว  24 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564   จะว่าไปกลุ่มนี้ใช้ทรัพย์กรวนไปมาได้คุ้มและ (หุ้น) แพงซะจริง 

๐๐๐

หุ้นไทยกลับมาบวกครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ เป็นการเทคนิเคิลรีบาวด์ หลังถูกถล่มขายหนักร่วงลงไปกว่า 80 จุด ท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน”

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,590.81 จุด เพิ่มขึ้น 22.12 จุด หรือ 1.41% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,591.86 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,563.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 93,864.33 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 1,593.18 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 468.17 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันซื้อ 1,621.03 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อ 440.32 ล้านบาท

๐๐๐

หุ้นใหญ่หลายตัวมีแรงช้อนซื้อกลับ ทั้งแบงก์ สื่อสาร พลังงาน แต่ที่สวนทางชาวบ้าน เห็นจะเป็นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วันก่อนยืนบวกสวนกระดาน มาวานนี้ถูกเทขาย ขณะที่กลุ่มอื่นๆ มีแรงซื้อกลับ ดูแล้วน่าจะร่วงตามกระดานหุ้นไอที ดัชนี Nasdaq ของสหรัฐที่ถูกถล่มขายหนัก

โดยบมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ย่อตัวลงจากออลไทม์ไฮที่ 93.25 บาท มาปิดที่ 90.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 1.9% ส่วนบมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ปิด 92 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.6%

๐๐๐

ช่วงนี้วอลุ่มหุ้นไทยคึกคักน่าดู มูลค่าการซื้อขายทะลุ 1 แสนล้านบาท มา 3 วันติดๆ กลายเป็นปัจจัยบวกให้กลุ่มโบรกเกอร์ ราคาเริ่มขยับขึ้นอีกครั้ง นำโดยบล.ฟินันเซีย ไซรัส(FSS) ที่ประกาศเตรียมขอไลไซนส์รุกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในปีหน้า กลายเป็นสตอรี่ใหม่ช่วยจุดพลุราคาพุ่งแรง ล่าสุดขึ้นต่อ มาปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 15.91%

ส่วนบมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ซึ่งมีทั้งธุรกิจโบรกเกอร์และยังเข้าไปทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน “คริปโตมายด์” ราคาวิ่งแรง 12.82% ปิด 1.32 บาท บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) เป็นอีกตัวที่วิ่งแรง เดินหน้าทำนิวไฮ วานนี้บวก 7.64% ปิดที่ 8.45 บาท ด้วยสตอรี่ “เทิร์นอะราวด์” หลังงวด 9 เดือน ปี 2564 พลิกมีกำไรแล้ว 173.74 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนขาดทุน 7.1 ล้านบาท

๐๐๐

ด้านบมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) ยังโชว์ฟอร์มแกร่ง เดินหน้าทำออลไทม์ไฮ ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 10.05% ล้อไปกับผลประกอบการปีนี้ที่ยังสดใสทำสถิติตใหม่ แถมยังมีสตอรี่หนุนจากการรับงานแผงวงจรแบตเตอรี่รถอีวีช่วยเติมเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก

๐๐๐

ส่วนบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) รีบาวด์แล้ว ปิด 3.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 4.27% หลังถูกขายมา 3 วัน เนื่องจากกังวลไวรัสกลายพันธุ์ แต่เมื่อเริ่มตั้งสติได้ และพิจารณาจากพื้นฐานยังน่าสนใจ แม้ปีนี้จะถูกพิษโควิดเล่นงาน แต่ยอดขายที่ดินทะลุ 1 พันไร่ เกินเป้าหมายของบริษัทที่ 820 ไร่ไปแล้ว ส่วนปีหน้าตั้งเป้ายอดขายที่ดินจะโตได้อีก 20-30%