ธ.ก.ส.ตั้งวงเงิน1.8พันล้านปล่อยกู้ผู้เพาะเลี้ยงและแปรูปจระเข้

ธ.ก.ส.ตั้งวงเงิน1.8พันล้านปล่อยกู้ผู้เพาะเลี้ยงและแปรูปจระเข้

ธ.ก.ส.ขานรับนโยบายรัฐ จัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 1,800 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง ผู้เพาะเลี้ยงและผู้ประกอบการแปรรูปจระเข้ ลูกค้ารายคนอัตรา 3.5% ต่อปี ส่วนลูกค้านิติบุคคลอัตรา 1.875% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการธุรกิจในช่วงโควิด-19

นายสมเกียรติ  กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้จระเข้ซึ่งมีขนาดที่สามารถนำไปใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กว่า 600,000 ตัว ในฟาร์มเพาะเลี้ยงทั่วประเทศ ไม่สามารถจำหน่ายและแปรรูปเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออกได้

ส่งผลให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ต้องแบกภาระค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการเพาะเลี้ยง และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องมีต้นทุนค่าใช้จ่าย เช่น การฟอกหนัง การเก็บรักษา (Stock) การแปรรูป เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน รวมทั้งขาดเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ

คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. จัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง วงเงิน 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ วงเงิน 600 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแปรรูปจระเข้ให้กับผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง วงเงิน 1,200 ล้านบาท

อัตราดอกเบี้ย MRR – 3 หรือ 3.5% ต่อปี (ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR 6.5% ต่อปี) และอัตราดอกเบี้ย MLR – 3 หรือ 1.875% ต่อปี (ปัจจุบันดอกเบี้ย MLR 4.875% ต่อปี) ตามประเภทลูกค้า โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนเกษตรกรและผู้ประกอบการในอัตรา 3% ต่อปี  กำหนดชำระคืนภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันกู้

สำหรับคุณสมบัติของผู้กู้ต้องเป็นเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ ที่มีการแจ้งการประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พร้อมทั้งมีหลักฐานแสดงจำนวนจระเข้ที่ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์ ทำการค้า และครอบครองจระเข้ ตามกฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับจระเข้  ที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายข้างต้น ตลอดจนมีแผนการจัดซื้อจระเข้เพื่อนำมาแปรรูป โดยจระเข้นั้น ต้องได้มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

ทั้งนี้ กรณีผู้กู้เป็นทั้งเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สามารถขอรับการสนับสนุนสินเชื่อได้เพียงประเภทเดียว

นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า ธุรกิจหนังจระเข้ เป็นที่นิยมของประเทศจีนและยุโรป โดยในปี 2561-62 ไทยส่งออกสินค้าจระเข้มากกว่า 7,000 ล้านบาท แต่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีมูลค่าการส่งออกเพียง 785 ล้านบาท

มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพต่อไปได้ โดยผู้ที่สนใจ สามารถยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มีนาคม 2565 ที่ สำนักงานประมงจังหวัด และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ