ซีอีโอ สินมั่นคง ปัดข่าวขายหุ้นใหญ่ให้บริษัทยุโรป แต่รับมีแผนเพิ่มทุน

ซีอีโอ สินมั่นคง ปัดข่าวขายหุ้นใหญ่ให้บริษัทยุโรป แต่รับมีแผนเพิ่มทุน

ซีอีโอ "สินมั่นคงประกันภัย" ปฏิเสธกระแสข่าวดีลเพิ่มทุน2 บริษัทยุโรป แต่ยอมรับมีแผนเพิ่มทุนจริง ให้ FA เร่งดำเนินการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจในอนาคตและรองรับความเสี่ยงโควิดที่จะเกิดขึ้น รับโอไมครอนเพิ่มความกังวล

นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK  เปิดเผยว่า บริษัทขอปฏิเสธข่าว กรณีบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทกำลังพิจารณาขายหุ้นส่วนใหญ่ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด 

แต่ยอมรับว่า บริษัทมีแผนที่จะเจรจาเพิ่มทุน โดยให้ที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) ดำเนินการอยู่ ทั้งศึกษาและเตรียมความพร้อม โดยจะพยายามเร่งให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด  ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้  ทั้งนี้วัตถุประสงค์การเพิ่มทุนรอบนี้ เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจของบริษัทในทุกด้าน ทั้งการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต และสร้างความแข็งแกร่งรองรับปัจจัยต่างๆ รวมถึงมูลค่าสินไหมโควิด-19ที่คาดจะเกิดขึ้นด้วย

“ส่วนตัวยังไม่ได้รับแจ้งข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งอาจมาจากความเข้าใจผิดได้ อย่างเช่น ลิเบอร์ตี้ มิวชวล กรุ๊ป ให้ความสนใจและเคยมีการเจรจามากันมานานหลายปีก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่ได้มีการตกลงกัน”

นายเรืองเดช ยอมรับว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ในขณะนี้เป็นความเสี่ยงที่น่ากังวลเพิ่มต่อธุรกิจประกันภัย  เพราะปัญหาจากโควิดเดลต้ายังค้างอยู่ ในส่วนของบริษัทได้เสนอแนวทางช่วยเหลือผ่านสมาคมประกันวินาศภัย ขอให้ยกเลิกคำสั่งห้ามหยุดขายประกันโควิด 

ขณะนี้ยังรอผลการเจรจา หวังว่าคปภ.จะเข้าใจและสร้างความสมดุลกับทุกส่วนในอุตสาหกรรมประกันภัย  ขณะเดียวกันบริษัทได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมล่าสุด สำหรับเข้าทดสอบภาวะวิกฤติรอบใหม่ (stress test) ครบถ้วนแล้ว  และที่ผ่านมาบริษัทมีการจ่ายเคลมสินไหมประกันโควิดอย่างต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 6,000ล้านบาท 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) รายงาน  ผลการดำเนินงานในไตรมาส3/2564 มีผลขาดทุนสุทธิ 3,662.39ล้านบาท จากช่วงปีก่อนมีกำไร160.21ล้านบาท และ9เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.2564) มีผลขาดทุนสิทธิ 3,845.58ล้านบาท 

สาเหตุมาจาก ณ ไตรมาส3/2564 บริษัทมียอดเคลมสินไหม 6,815.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น339.63% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมาจากยอดจ่ายสินไหมประกันโควิด โดยเฉพาะกรมธรรม์เจอจ่ายจบ จำนวนกว่า 6,002.91 ล้านบาท จากผลจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ขณะที่การรับประกันภัยมีผลขาดทุน 4,991.67ล้านบาท เป็นผลจากการรับประกันภัยโควิดขาดทุน จำนวน5,827.24ล้านบาท ส่วนการรับประกันภัยประเภทอื่นๆมีผลกำไร 835.57ล้านบาท
          
คณะกรรมการบริษัทมีมติเมื่อ 12 ส.ค.2564 อนุมัติให้แต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน แห่งหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญ เรื่องการเพิ่มทุนเพื่อศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับการเพิ่มทุน เพื่อรองรับผลกระทบต่อผลประกอบการจากค่าสินไหม โควิด-19 ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้และบริษัทได้รับการอนุมัติหลักเกณฑ์การขอผ่อนผันกฎเกณฑ์ในการกำกับบางประการให้บริษัทประกันภัยที่มีค่าสินไหมโควิด-19 แล้วจากคปภ. เมื่อ 26 ต.ค.2564 โดยมีผลตั้งแต่30ก.ย.2564-30มิ.ย.2565  

จากการดำเนินการข้างต้น ทางบริษัทกำลังพิจารณาปัจจัยต่างๆ รวมถึงมูลค่าสินไหมโควิด-19ที่คาดจะเกิดขึ้นจนถึงเดือนเม.ย.2565 เพื่อพิจารณาเพิ่มทุนและการเพิ่มทุนเพื่อรองรับกฎเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด