JMART ทู เดอะมูน | ออฟเรคคอร์ด

JMART ทู เดอะมูน | ออฟเรคคอร์ด

ตลาดคริปโตฯ สายพันธุ์ไทย "JFIN Coin" ทะยานสู่ดวงจันทร์เป็นที่เรียบร้อยตาม BITKUB ไปติดๆ แรงจัดขนาดนี้พาหุ้นแม่ JMART ยืนบวกสวนหุ้นติดลบ

๐๐๐ JMART ทู เดอะมูน

บรรดาสาวก คริปโต ฯ ต่างหวังว่า “เหรียญ” หรือ “โทเคน” ที่ลงทุนจะได้มีโอกาสที่ราคาหุ้นพุ่งแรง “ทะยานไปถึงดวงจันทร์”  ซึ่งผลตอบแทนที่สูงตามมาด้วยแม้จะมีความผันผวนก็ตาม

ที่ผ่านมาหุ้นที่ไปเยือนดวงจันทร์มีเพียง DELTA ก่อนจะถูกดึงกลับมายังภาคพื้นดินด้วยเกณฑ์ใหม่จับเข้ากรอบฟรีโฟลตที่กำลังจะออกของ ตลท.

และตัวที่ 2 น่ารักและน่าลุ้น JMART  เจ้าของ JFIN   Coin  ที่โด่งดังปี 2561 เพราะเป็นเจ้าแรกที่ฝ่ากระแสออก ICO เคาะราคาที่ 6.60 บาทต่อเหรียญ มาแบบก่อนใครเพื่อน

แต่กระแสเงียบกริบแทบจะทันทีจนราคาขยับลงต่อเนื่องจนถึงติดลบ และแทบจะไม่มีใครกล้าถือต่อด้วยมูลค่าไม่เพิ่ม

พอกลับมาดูอีกที กลายเป็นอีกเหรียญที่ขึ้นไปสู่ดวงจันทร์เป็นที่เรียบร้อย ราคาทะลุ 100 บาทต่อเหรียญ อยู่ที่ 117 บาทต่อเหรียญ จากต้นปีราคาติดลบ 2.88 บาทต่อเหรียญ บวกเป็นพันเปอร์เซนต์ !!!!

เลยไม่แปลกใจที่ JMART ยืนบวกสวนกระดานหุ้นติดลบหนักๆ ในช่วงผ่านมาได้ 

๐๐๐  ความวิตกกังวลต่อโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เพราะหวั่นว่าเชื้อกลายพันธุ์นี้อาจเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดการระบาดรอบใหญ่ขึ้นอีกครั้ง

๐๐๐ ล่าสุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่า “โอไมครอน” มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งโลก ทำให้หุ้นไทยถูกถล่มขายหนักในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากวิตกว่าโควิดกลายพันธุ์จะฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และกระทบต่อแผนการเปิดประเทศและภาคการท่องเที่ยว

๐๐๐ โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,589.69 จุด ลดลง 20.92 จุด หรือ 1.30% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,617.55 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,587.78 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น    ล้านบาท

๐๐๐  หุ้นถุงมือยาง บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) ฟื้นตัวทันที บวกแรง 5.69% ปิดที่ 32.50 บาท ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อการระบาดของโควิด “โอไมครอน” น่าจะทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่เพื่อขายถุงมือยางในเวียดนาม

แน่นอนว่าเมื่อหุ้นลูกวิ่งแรงขนาดนี้ หุ้นแม่ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) จะพลาดได้ไง ไล่ตามมาติดๆ ปิด 32 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.40%

๐๐๐  บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เป็นอีกหนึ่งตัวที่ยืนบวกสวนกระดาน ระหว่างวันขึ้นไปยืนทะลุแนวต้านสำคัญที่ 80 บาท โดยทำจุดสูงสุดที่ 81.50 บาท ก่อนย่อตัวลงเล็กน้อย ปิดที่ 79 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.64% ท่ามกลางความหวังว่ากระทรวงการคลังจะคลอดมาตรการส่งเสริมอีวีออกมาได้ทันภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันทีวันที่ 1 ม.ค. 2565

๐๐๐ พี่ใหญ่กลุ่มมือถือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มีแรงซื้อกลับ หลังพักฐานมา 3 วัน ปิด 211 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท หรือ 2.93% เพราะหากพิจารณาแล้ว “เอไอเอส” ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจได้ แม้คู่แข่ง “ทรู” กับ “ดีแทค” จะควบรวมกันแถมอำนาจต่อรองอาจเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำจากจำนวนผู้เล่นที่ลดลง

๐๐๐ ส่วนหุ้นถ่านหินยังผันผวนซะเหลือกิน “เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง” ล่าสุดมีข่าวว่ารัฐบาลจีนเตรียมเข้าควบคุมราคาถ่านหินมากขึ้นอีก ส่งผลให้ราคาถ่านหินร่วงลงทันที จึงมีแรงเทขายออกมายกกลุ่ม นำโดยพี่ใหญ่ บมจ.บ้านปู (BANPU) ปิด 10.70 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.73%

 ๐๐๐ ด้านบมจ.เอสวีโอเอ (SVOA) ระหว่างวันยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง เดินหน้าทำนิวไฮที่ 3.22 บาท รับอานิสงส์งานด้านไอทีเริ่มกลับมาคึกคัก ประกอบกับยอดขายสินค้าไอทีผ่านบริษัทลูก ทั้งบมจ.ไอที ซิตี้ (IT) และบมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) ไปได้สวย มีไอโฟน 13 เป็นสินค้าเรือธง แต่สุดท้ายต้านแรงถล่มขายที่ออกมาทั้งกระดานไม่ไหว ปรับตัวลงช่วงปลายตลาด พลิกปิดลบที่ 2.84 บาท ลดลง 5.96%