เทียบฟอร์ม"หุ้นค้าปลีกไอที"โตแรงสวนโควิด

เทียบฟอร์ม"หุ้นค้าปลีกไอที"โตแรงสวนโควิด

สัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าบรรดา “หุ้นร้านค้าปลีกสินค้าไอที” ดูคึกคักเป็นพิเศษ มีแรงซื้อสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเรื่อยๆ หลังเข้าสู่ช่วงปลายปีซึ่งถือเป็นไฮซีซันของธุรกิจ เป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ยิ่งสถานการณ์ในประเทศเริ่มคลี่คลาย บรรยากาศโดยรวมยิ่งคึกคักขึ้น ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยว ไปช้อปปิง กันมากขึ้น

โดยสินค้าไอทีเป็นหนึ่งในสินค้ายอดฮิตที่มักจะโกยยอดขายเป็นกอบเป็นกำในช่วงปลายปีแบบนี้ เพราะจะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ ขณะเดียวกันในฝั่งของผู้ประกอบการอัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ลด แลก แจก แถม กันอย่างเต็มที่เพื่อปิดตัวเลขปลายปี ถือเป็นโอกาสทองของผู้บริโภค

หนึ่งในงานใหญ่ที่ชาวไอทีต้องห้ามพลาด คือ “คอมมาร์ต” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นไปแล้วระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. ที่ไบเทค บางนา ภายใต้ชื่อ “COMMART BRIGHT” ในธีม มันจ้า…ซะเหลือเกิน โดยมีการรวบรวมสินค้าไอทีจากผู้จัดแสดงและแบรนด์ต่างๆ เอาไว้มากมายเหมือนเดิม ภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดขั้นสูงสุด

โดยมีสินค้าในเลือกช้อป ครบ จบ ในที่เดียว ทั้งโน้ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์ DIY, สมาร์ทโฟน, แท็บแลต, สมาร์ทโฮม, เกม, แก็ดเจต ฯลฯ ซึ่งทางผู้จัดงาน บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท และมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 4 แสนคน

ทั้งนี้ มองว่ากำลังซื้อกลุ่มสินค้าไอทียังไปได้สวย เพราะตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เรียนหนังสือที่บ้าน (Learn From Home) กันมากขึ้น สินค้าไอทีจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น

อีกหนึ่งโปรดักส์ฮอต! ที่ยังมาแรงเห็นจะเป็น iPhone 13 เดินหน้าโกยยอดขายได้ต่อเนื่อง หลังเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา แถมตอนนี้หลายรุ่น สินค้าขาดตลาดด้วยซ้ำ สาวกไอโฟนต้องอดใจรอกันหน่อย

ความร้อนแรงของ iPhone 13 เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขายร้านค้าปลีกสินค้าไอทีปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า หลายบริษัทน่าจะได้เห็นยอดขายทำนิวไฮ เติบโตสวนวิกฤตโควิด ขณะเดียวกันกระแสโลกเสมือนจริง หรือ Metaverse ที่กำลังมาแรงจะเป็นอีกแรงหนุนสำคัญให้ตลาดสินค้าไอทีในระยะถัดไป

สำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าไอทีที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทยมีอยู่หลายบริษัท นำโดยบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ด้วยขนาดมาร์เก็ตแคป 96,600 ล้านบาท มีร้านค้ามากมายหลายแบรนด์รวมกว่า 900 สาขา เช่น BaNANA, Studio7, BaNANA Mobile, KingKong Phone ฯลฯ และยังให้บริการหลังการขายสินค้า Apple ภายใต้ชื่อ “iCare” รวมทั้งร้าน “TRUE by Com7” โดยปี 2563 มีรายได้รวม 37,352.90 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ปี 2564 จะเติบโต 20%

อีกหนึ่งบริษัทที่น่าจะคุ้นเคยกันดี บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART มีหน้าร้านของตัวเองมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆ ในเครืออีกหลายธุรกิจ จนเข้าตากลุ่มทุนยักษ์ใหญ่บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ โดดเข้ามาถือหุ้น

ส่วนบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เน้นตลาดขายส่งเป็นหลัก โดยได้รับเลือกเป็นผู้แทนจําหน่ายสินค้าจากแบรนด์ชั้นนําระดับโลกมากกว่า 60 แบรนด์ ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 32,244.44 ล้านบาท

บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของแบรนด์ Xiaomi ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 สาขา รวมทั้งยังขายสินค้าของ Apple ผ่านร้าน iStudio by copperwired และ Ai ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 โตมากกว่า 20%

ด้านบริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI อีกหนึ่งตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple ผ่านช่องทางร้าน iStudio by SPVi, iBeat by SPVi, U Store by SPVi, Mobi และศูนย์บริการลูกค้า iCenter ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 โต 10-15% โดยเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา

และบริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ IT เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการขายสินค้าไอทีครบวงจร ที่ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เช่นเดียวกับปีนี้ พร้อมวางแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 43 สาขา รวมเป็น 440 สาขา