คาถาพ่อ-แม่รวยสอนลูก จาก “เจ้าสัวเจริญ” ถึงทายาท "สิริวัฒนภักดี"

คาถาพ่อ-แม่รวยสอนลูก จาก “เจ้าสัวเจริญ” ถึงทายาท "สิริวัฒนภักดี"

ส่องคาถามหาเศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทย "เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี" มีวลี วรรคทองอะไรใช้สอนบรรดา "ทายาท" ทั้ง 5 ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนอาณาจักรไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น จนเติบใหญ่เป็นอาณาจักรหลายแสนล้านบาท

เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจของ เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภายใต้บริษัท ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ TCC Group นั้น ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1.กล่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีหัวหอกคือ “ไทยเบฟเวอเรจ” แบรนด์ดังในพอร์ตโฟลิโอ เช่น เบียร์ช้าง กาแฟสตาร์บัคส์ โออิชิ เคเอฟซี

2.ธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า เป็นภาคการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โรงงานขวดแก้ว และห้างค้าปลีกอย่าง “เบอร์ลียุคเกอร์” หรือบีเจซี และ “บิ๊กซี”

3.ธุรกิจประกันและการเงิน อาคเนย์ ประกันภัย

4.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงแรม ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ฯ ภายใต้บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ประเทสไทย จำกัด มีโครงการดังเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ หรือปัจจุบันคือศูนย์ค้าส่ง โรงแรมนับสิบแห่ง จำนวนห้องพักหลายพันแห่ง และ

5.ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีทั้งพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ ผลิตปุ๋ยตรามงกฎ เป็นต้น

ธุรกิจการค้าทั้ง 5 กลุ่มมี “ทายาท-เขย” ร่วมขับเคลื่อนอาณาจักรกันอย่างลงตัว โดย อาทินันท์-โชตพัฒน์ พีชานนท์ ดูแลธุรกิจการเงิน, วัลลภา-โสมพัฒน์ ไตรโสรัส ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ฐาปน สิริวัฒนภักดี ดูแลธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร, อัศวิน-ฐาปนี เตชะเจริญวิกุล ดูแลอุตสาหกรรมและการค้า และ ปณต สิริวัฒนภักดี ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่าง เฟรเซอร์ ฯ ที่พัฒนาโครงการวัน แบงค็อก มูลค่าแสนล้านบาท

ท่ามกลางภาวะวิกฤติโควิด-19 ระบาดนานข้ามปี อาณาจักร “ทีซีซี กรุ๊ป” เลี่ยงผลกระทบได้ยาก แต่มากน้อยแตกต่างกันไป อาหารเครื่องดื่มยอดขายหด แต่ยังคงทำกำไรได้ ส่วนอสังหาฯ ภายใต้ AWC โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม จากเคยมีอัตราการเข้าพัก 80% แต่โรคระบาดฉุดอัตราการเข้าพักดำดิ่งขั้นสุดเหลือเพียง 1% เท่านั้น

วิกฤติการณ์เหล่านี้ “ทายาท” อาณาจักรแสนล้าน ได้คัมภีร์ คาถา หรือคำสอนอะไรจาก “เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา” บ้าง เพื่อเพิ่มพูนสติ ปัญญา ขับเคลื่อนองค์กรต่อ ซึ่งนี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในงาน ​​“Thailand 2022 Unlock Value” ก้าวสู่เส้นทางใหม่ ไร้ขีดจำกัด และ “วัลลภา ไตรโสรัส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ตอบ 4 คำ ได้แก่ อดทน นิ่ง เสียสละ และร่าเริง

คาถาพ่อ-แม่รวยสอนลูก จาก “เจ้าสัวเจริญ” ถึงทายาท \"สิริวัฒนภักดี\"

“วันนี้เมื่อได้ทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ หรือทานข้าวด้วยกันตอนเด็กๆ จะได้ยินสิ่งที่คุณพ่อสอนจะมี 4 คำ คือ ถ้าเราอดทน ทุกอย่างจะสำเร็จ ถ้าเรานิ่งจะเกิดสติ ปัญญา ถ้าเราเสียสละ เราจะพ้นภัย แล้วสุดท้าย ถ้าเราร่าเริงก็จะอายุยืน”

แล้วเป็นเช่นนั้นจริงไหม วัลลภา ฉายภาพว่า แม้ธุรกิจโรงแรมจะได้รับผลกระทบตลอดเวลาที่เกิดวิกฤติโควิด อัตราเข้าพักหายไปเกือบเกลี้ยง แต่บริษัทยังแบกภาระ “รายจ่าย” มหาศาล ทว่าบริษัทยังคง “ดูแลพนักงาน” ให้อยู่รอดไปด้วย นอกจากนี้ยังดูแลผู้เช่าในห้างค้าปลีกด้วย อย่างเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เป็นผู้ประกอบการรายย่อย(เอสเอ็มอี)

แต่ดูแลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะในภาวะที่ยากลำบาก ทุกคนต้องช่วยกันประหยัด ดูแลค่าใช้จ่ายรอบด้าน มุ่งทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ต้นทุนโดยรวมลดลงง 30% ต้นทุนคงที่ลดลง 20%

นอกจากนี้ ท่ามกลางวิกฤติ วิชาตัวเบาเป็นศาสตร์รอดของทุนเล็กใหญ่ แต่ AWC ยังมีโปรเจคลงทุน เช่น รวมกับตระกูล “หวั่งหลี” พลิกทำเลทองของ “ล้ง1919” สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก ยังปรับปรุงโรงแรมต่างๆ ทำการตลาดร่วมกับ “แมริออท” ที่มีฐาน 200 ล้านรายทั่วโลก และของ AWC อีก 200 ล้านราย การกัดฟัน อดทนทำการตลาดในช่วงที่ไร้ “ความต้องการ" (Demand) เพื่อรอวันที่โควิดคลี่คลายจะได้อานิสงส์จากฐานลูกค้าเหล่านี้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนกับโรงแรมในเครือนั่นเอง

ส่วน “ร่าเริง” คงไม่ต้องบอก หากผู้อ่านมีโอกาสได้พบ “วัลลภา” ใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มแย้ม ความแจ่มใส ยิ่งกว่านั้นคือการเป็นผู้บริหารที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมากด้วย

อย่างไรก็ตาม คาถาพ่อ-แม่รวยสอนลูกดังกล่าว ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ทายาทตระกูล “สิริวัฒนภักดี” นำมาแบ่งปันต่อ เพราะ “ฐาปน” ได้เคยหยิบมาถ่ายทอดแล้วบนเวทีสัมมนาต่างๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทุกคนจดอย่างแม่นยำ และยึดถือปฏิบัติมาเสมอ