"แอตต้า" วอนรัฐเลื่อนเก็บ "ค่าเหยียบแผ่นดิน" 1 ม.ค.65

"แอตต้า" วอนรัฐเลื่อนเก็บ "ค่าเหยียบแผ่นดิน" 1 ม.ค.65

“แอตต้า” วอนรัฐเลื่อนเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน จากกำหนดเริ่ม 1 ม.ค.2565 ออกไปก่อน หวั่นต้นทุนการท่องเที่ยวเพิ่ม ทัวริสต์ต่างชาติเมินเที่ยวไทย

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า สำหรับแนวคิดของภาครัฐที่เตรียมจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวที่เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ซึ่งมีกำหนดเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป เบื้องต้นทางสมาคมฯขอเสนอให้เลื่อนการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินออกไปก่อน เนื่องจากขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวไทยอยู่ในช่วงการฟื้นตัว และการทำตลาดดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในไทย

“หากเรากำหนดมาตรการที่สร้างต้นทุนเพิ่มให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามา อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเดินทางเข้ามา เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่เปิดประเทศรับชาวต่างชาติ แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่เปิดประเทศ และทำตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตัวเองเช่นกัน ทำให้เกิดการแข่งขันสูง จึงไม่น่าจะใช่เวลาที่เหมาะสมในการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินในเวลานี้”

นายศิษฎิวัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่รัฐบาลได้เห็นชอบแนวคิดการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อใช้พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะนำรายได้จากการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินเข้าไปเป็นรายได้ของกองทุนดังกล่าว โดยภาคเอกชนต้องการให้อย่างน้อยมีงบประมาณจากภาครัฐมาเป็นเงินตั้งต้นก่อนเพื่อดำเนินการเป็นตัวอย่าง จากนั้นต้องการเห็นความชัดเจนในเรื่องวัตถุประสงค์และเป้าหมายการใช้เงินของกองทุนที่มีความชัดเจน เป็นแผนดำเนินงานแบบเป็นรูปธรรม สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงต้องการให้มีภาคเอกชนหรือองค์กรธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการในกองทุนให้มากที่สุด ก่อนจะพิจารณาอีกครั้งว่าการเริ่มเก็บค่าเหยียบแผ่นดินควรจะเริ่มใช้ในช่วงใด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2564 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ได้เห็นชอบการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อใช้พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อการเติบโตที่มีความยั่งยืน

โดยเบื้องต้นรูปแบบของการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว จะมีรายได้มาจากการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน ซึ่งก่อนหน้านี้กำหนดไว้ประมาณ 10 เหรียญสหรัฐต่อคน หรือประมาณ 300 บาท แต่ได้ปรับเพิ่มมาอีก 200 บาทต่อคน รวมเป็นการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน 500 บาทต่อคน คาดการณ์ว่าจะเริ่มจัดเก็บตามกำหนดเดิมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป