"AWC" พลิกโฉม "ล้ง 1919" ปั้นแลนด์มาร์คสุขภาพต่อจิ๊กซอว์ "ริเวอร์เจอร์นีย์"

"AWC" พลิกโฉม "ล้ง 1919"  ปั้นแลนด์มาร์คสุขภาพต่อจิ๊กซอว์ "ริเวอร์เจอร์นีย์"

เป็นอีกหนึ่งบิ๊กดีลของแวดวงธุรกิจเมืองไทย เมื่อบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กิจการอสังหาริมทรัพย์ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินริมน้ำประวัติศาสตร์ “ล้ง 1919” จากบริษัท หวั่งหลี จำกัด เป็นเวลา 64 ปีเศษ ด้วยงบลงทุน 3,436 ล้านบาท

ร่วมสร้างมาตรฐานใหม่แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย! เป็นส่วนหนึ่งในแผนลงทุน 5 ปี (2565-2569) ของ AWC ที่เตรียมลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อดันมูลค่าทรัพย์สินเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สิน 136,094 ล้านบาท

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า เตรียมสร้างปรากฏการณ์ “The Integrated Wellness Destination” ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของคนรักสุขภาพ ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้านสุขภาพจำนวนมากจากทั่วโลก บริหารโครงการโดย “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โฮเทล คอมพานี” (The Ritz-Carlton Hotel Company) ให้บริการโรงแรมหรู 86 ห้องพัก เรสซิเดนซ์หรู 56 ยูนิต และบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มลักซ์ชัวรี่ เตรียมเปิดบริการครบวงจรปี 2569  

คาดว่าโครงการนี้จะมี EBITDA หรือกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ 500 ล้านบาทในปีแรกที่ให้บริการ

โดยวานนี้ (22 พ.ย.) บริษัท เอดับบลิวซี บาย ริเวอร์ฟรอนท์ จำกัด (บริษัทย่อยที่ AWC ถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100%) ได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับ บริษัท หวั่งหลี จำกัด เพื่อเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ “ล้ง 1919” ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับตลาดน้อย มีเนื้อที่เช่า 8 ไร่กว่า เป็นระยะเวลา 64 ปีเศษ  มูลค่าลงทุนรวม 3,436 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าเช่า 1,269.2 ล้านบาท และเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการ 2,166.8 ล้านบาท สำหรับแลนด์มาร์คใหม่ของท่องเที่ยวไทย

“การลงนามในสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับ บริษัท หวั่งหลี จำกัด แสดงถึงความร่วมมือของ AWC และเครือข่ายพันธมิตรในการยกระดับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตระกูลหวั่งหลี ผู้เป็นเจ้าของที่ดินให้ความไว้วางใจในการร่วมสร้างคุณค่าในระยะยาวร่วมกับ AWC พัฒนาสถานที่ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อสร้างคุณค่าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้านสุขภาพระดับโลก ซึ่งจะเชื่อมโยงกับโครงการอื่นๆ ของ AWC ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสอดคล้องกับแนวคิด “The River Journey” ประสบการณ์ท่องเที่ยวริมน้ำที่สำคัญของประเทศไทย”

วัลลภา ขยายความเพิ่มว่า การขยับมาลงทุนตลาด “ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งข้องเกี่ยวกับทุกส่วนของผู้คน เพราะนอกจากการเดินทางท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างความสุข และสนุกแก่ชีวิตแล้ว การได้ดูแลสุขภาพของตัวเอง และคนที่เรารัก จะทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปยังจุดหมายที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้างคุณค่าต่อเนื่อง

“ด้วยจุดแข็งของประเทศไทยที่มีบริการด้านสาธารณสุขติดอันดับต้นๆ ของโลก มีโมเดลท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ฮอสพิทาลิตี้ที่มีเสน่ห์ชวนประทับใจ และสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม จะยิ่งช่วยตอบโจทย์ให้ประเทศไทยขึ้นมาเป็นผู้นำของตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกได้”

นอกจากนี้ตัวโครงการ ยังสามารถเชื่อมโยงและสานพลังร่วมกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในเครือ AWC ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการตึกสูงระฟ้าที่เตรียมเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯในอนาคต

ด้วยบริการเรือ 4 รูปแบบที่จะเข้ามาเป็นจุดขายใหม่ ได้แก่ เดอะ รีเซฟชั่น สปีดโบ๊ท, เดอะ ชัตเทิล นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวริมน้ำเจ้าพระยา จากเอเชียทีคฯ ถึงท่าพระจันทร์, เดอะ เดย์ ทริป เช่น ไปเกาะเกร็ด หรือบางกะเจ้า และ ดิ โอเวอร์ ไนท์ สเตย์ เลือกแวะพักค้างคืนที่สมุทรปราการ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา โดยสองบริการหลังเป็นรูปแบบที่นักท่องเที่ยวสามารถออกแบบเองได้ว่าต้องการไปเที่ยวจุดหมายใด

ด้าน วุฒิชัย หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท หวั่งหลี จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้แลนด์มาร์คประจำตระกูลที่เป็นศูนย์รวมความภาคภูมิใจของครอบครัว 

“เรามีความมั่นใจในพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างแน่นแฟ้นอย่าง AWC ว่าจะมาร่วมพัฒนาให้ที่ดินผืนนี้มีคุณค่าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป โดยมีเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน พันธมิตรระดับโลกมาร่วมพัฒนาให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก”

ทั้งนี้ บริษัท หวั่งหลี จำกัด ผู้ให้เช่าตกลงส่งมอบการครอบครองพื้นที่เช่าภายในวันที่ 31 ธ.ค.2564 และจดทะเบียนการเช่า 30 ปี (1 ม.ค.2569 - 31 ธ.ค.2598) พร้อมกับคำมั่นของผู้ให้เช่าว่าจะให้เช่าต่ออีก 30 ปี (1 ม.ค.2599-31 ธ.ค.2628) โดยผู้ให้เช่าตกลงไม่คิดค่าเช่าในช่วงระยะเวลาพัฒนาโครงการ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ผู้ให้เช่าส่งมอบการครอบครองพื้นที่เช่าจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2568

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์